Page 108 - kpiebook63006
P. 108

108   การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสงขลา






             คัดสรรของพรรคแล้วและพรรคเป็นของประชาชน แม้ว่าผู้สมัครรายนั้นไม่ใช่คนในพื้นที่ก็ตาม แต่สำาหรับ

             ณัฏฐ์ชนน ให้เหตุผลว่า “สโลแกน คนบ้านเรา เพราะประชาชนต้องการคนบ้านเราจริงๆ” (ณัฏฐ์ชนน
             ศรีก่อเกื้อ, สัมภาษณ์ 12 ส.ค.2562)


                      สโลแกนดังกล่าวมาจากการลงพื้นที่และรับฟังปัญหาต่างๆ ของประชาชนมาอย่างยาวนาน

             ก่อนการเลือกตั้งประมาณ 3 ปี แม้ในช่วงเวลานั้นคสช. และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ สั่งห้ามนักการเมือง
             พรรคการเมืองจัดกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง

             แต่ณัฏฐ์ชนน ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ได้ทำาหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน
             แทนที่อดีตส.ส. ทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ นำาปัญหาที่ประชาชนในพื้นที่และต่างพื้นที่ แต่เป็นปัญหาร่วมกัน

             เช่น ราคายางพารา ราคาปาล์มนำ้ามัน ปัญหาการทำาประมง นำาเสนอต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็น
             ระยะๆ ทั้งที่ทำาเนียบรัฐบาลและในโอกาสที่พลเอกประยุทธ์ลงพื้นที่ในต่างจังหวัด แม้ว่าไม่สามารถพบ

             กับพลเอกประยุทธ์ได้โดยตรงก็ตาม เช่น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
             ผ่านศูนย์บริการประชาชนทำาเนียบรัฐบาล หรือเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เมื่อนายกรัฐมนตรีมาเป็น

             ประธานการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มติชนออนไลน์, 27 พฤศจิกายน
             2560, ตัวแทนชาวสวนยาง 4 อ�าเภอสงขลา ถาม’บิ๊กตู่’ 6 ข้อ รู้จัก 5 เสือวงการยางหรือไม่ (ออนไลน์),

             15 สิงหาคม 2562 แหล่งที่มา https://www.matichon.co.th/politics/ news_746425) ความเคลื่อนไหว
             เช่นนี้ทำาให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่รู้จักมากขึ้นและเกิดการเปรียบเทียบกับอดีตส.ส. ได้ว่าเป็นตัวแทน

             ประชาชนในพื้นที่ได้มากน้อยเพียงใด


                      ก่อนตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยนั้น ณัฏฐ์ชนน มีข่าวกับหลายพรรค รวมถึง
             พรรคประชาธิปัตย์ที่มีกระแสข่าวว่าจะผลักดันให้ศิริโชค ลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ แต่ในที่สุด
             ณัฏฐ์ชนน ก็เลือกลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยโดยให้เหตุผลว่า


                                   “ผมพิจารณาพรรคที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคได้แสดงศักยภาพ แสดง
                            ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ และต้องเป็นพรรคที่มีแนวโน้มจะได้เป็นรัฐบาล

                            ซึ่งผมพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยสามารถร่วมงานกับพรรคการเมืองใดๆ ก็ได้
                            เพราะเป็นพรรคที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สลายความคิด

                            ความแตกต่าง ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งบางพรรคยังมีเรื่องนี้อยู่ อีกทั้งผมมองดูแล้ว
                            พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคมีอนาคต มีโอกาสเติบโตต่อไปในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งประชาชน

                            ในพื้นที่ก็จะได้ประโยชน์” (ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ, สัมภาษณ์ 12 ส.ค.2562)



                      แม้ว่าความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน จะทำาให้คนที่
             คิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์หวั่นเกรง และไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะชนะเลือกตั้งได้

             โดยเฉพาะในอดีตที่ผ่านมา แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ณัฏฐ์ชนน เชื่อมั่นว่าตนจะสามารถชนะเลือกตั้งเป็น
             ส.ส.ได้ เพราะเห็นตัวอย่างหรือได้แรงบันดาลใจจากหลายๆ ประเทศ ที่ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113