Page 146 - kpiebook63005
P. 146

145








                          อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากคะแนนจะพบว่า แม้สิงหภณจะได้คะแนนสูงจากการเลือกตั้ง

                  ล่วงหน้าและการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และคะแนนสูงในอำาเภอที่ไม่ได้มีสภาพความเจริญเท่าไรนัก
                  คืออำาเภอภูผาม่านและอำาเภอสีชมพู แต่ในอำาเภอใหญ่อย่างอำาเภอชุมแพ คะแนนของสิงหภณใกล้เคียงกับ

                  คะแนนของสมพงษ์ ขณะที่ในตัวเมืองชุมแพ สิงหภณพ่ายแพ้เสียด้วยซำ้า ในประเด็นนี้ สิงหภณวิเคราะห์
                  ว่า พ่อค้าในเมืองมีแนวโน้มที่จะเลือกพรรคพลังประชารัฐมากกว่า เนื่องจากชื่นชอบในการบริหารประเทศ

                  ของพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำาให้บ้านเมืองสงบ อีกทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก็สนับสนุนสมพงษ์
                  เช่นเดียวกับเครือข่ายกำานันผู้ใหญ่บ้าน กระนั้นก็ดี คะแนนยังถูกแบ่งไปให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

                  ด้วยกันอีก โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ 13,377 คะแนน และพรรคเพื่อชาติ 5,834 คะแนน สิงหภณ
                  เล่าเรื่องราวในช่วงหาเสียงของตนเองว่า “ช่วงผมหาเสียง ผมจะบอกว่ามันมีสองฝ่าย ฝ่ายสืบทอดอำานาจ

                  ให้เผด็จการกับฝ่ายประชาธิปไตย พี่น้องจะเลือกพรรคไหนก็ได้ แต่ขอให้เลือกฝั่งประชาธิปไตย” (สัมภาษณ์
                  วันที่ 28 มิถุนายน 2562) ในแง่นี้ หากรวมคะแนนของสิงหภณคือ 32,751 กับนายสานิตย์ พระโบราณ

                  เกษตรกรไร่อ้อยรายใหญ่ จากพรรคอนาคตใหม่ และพันตำารวจเอกอุดร ชาญนุวงศ์ แกนนำา นปช.จาก
                  พรรคเพื่อชาติ จะได้ 51,962 คะแนน ถือว่าใกล้เคียงกับคะแนนของสมศักดิ์จากการเลือกตั้งในปี 2554

                  ที่ได้ 51,416 คะแนน ทั้งนี้ สานิตย์ได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ในอำาเภอชุมแพค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ
                  อำาเภออื่นๆ เนื่องด้วยอำาเภอชุมแพเป็นอำาเภอที่มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเป็นจำานวนมาก และเป็นอำาเภอ

                  ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับสองรองจากอำาเภอเมืองขอนแก่น

                            ในส่วนของสมพงษ์ ปู่เพ็ง จากพรรคพลังประชารัฐซึ่งได้ 27,694 คะแนน ถือว่าได้น้อยกว่า
                  ครั้งสังกัดพรรคกิจสังคมลงการเลือกตั้งในปี 2554 ที่ได้ 29,595 คะแนน สมพงษ์เติบโตมาจากสายการเมือง

                  ท้องถิ่นในพื้นที่ เป็น ส.อบจ. มา 5 สมัย ครั้งล่าสุดในการเลือกตั้ง ส.อบจ.ปี 2555 เขาได้ 9,739 คะแนน
                  เป็นตัวแทนของเขต 2 อำาเภอชุมแพ สมพงษ์ใช้เวลาหลายปีในฐานะ ส.อบจ. ดูแลพื้นที่ชุมแพมาตลอด

                  ก่อนการเลือกตั้ง การมาลงพรรคพลังประชารัฐของเขาเนื่องจากได้รับการทาบทามโดยเอกราช ช่างเหลา
                  สมพงษ์ให้สัมภาษณ์ผู้วิจัยว่า “ท่านเอกราชชวนผมไปอยู่พลังประชารัฐ ผมก็เคารพนับถือท่านเอกราช

                  หัวหน้าพาไปก็ต้องไป อีกอย่างในอีสานไม่มีพรรคไหนจะเทียบกับพรรคเพื่อไทยได้ ก็มีแต่พลังประชารัฐ”
                  ก่อนการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐมองว่า สมพงษ์เป็นผู้สมัครเกรดเอ เขาเล่าว่า “พรรคจัดอันดับให้

                  ผมเป็นเกรดเอ ทุกโพลล์ในเขตนี้ คะแนนของผมนำาโด่งหมด ไม่ว่าจะเป็นโพลล์ของฝ่ายปกครอง ตำารวจ
                  กอ.รมน. ผมชนะตลอด ในขอนแก่นพรรคพลังประชารัฐหวังแค่ 4 คน คือผม ท่านสมศักดิ์ เขต 7

                  ท่านกิตติเขต 3 และท่านวัฒนาเขต 2” ในส่วนของคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ สมพงษ์กล่าวว่า คะแนน
                  ไม่เป็นที่น่าพอใจเพราะรอบก่อนได้คะแนนเยอะกว่า นอกจากนี้ สมพงษ์มองว่า เพราะพรรคอนาคตใหม่

                  ที่มาแย่งคะแนนจากพรรคพลังประชารัฐไปเยอะ “พรรคเพื่อไทยในเขต 6 เขาก็มีฐานเสียงของเขาอยู่แล้ว
                  ผมไม่คิดว่าคะแนนของอนาคตใหม่จะได้เกินพัน เพราะผู้สมัครเป็นเกษตรกร ใช้ชีวิตเงียบๆ มีแค่ป้าย

                  หาเสียง งานบุญงานสังคมก็ไม่เคยไป กรรมการหมู่บ้านก็ไม่เคยเข้าร่วม แม้แต่บ้านผมอยู่ใกล้บ้านสานิตย์
                  แต่ผมไม่เคยรู้จักคนๆ นี้มาก่อน” และสมพงษ์กล่าวว่า ตนเองตกใจไม่น้อยที่เห็นคะแนนของพรรคเพื่อชาติ

                  ได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นคะแนน เนื่องจากผู้สมัครเป็น สมาชิก นปช. ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ (สัมภาษณ์วันที่ 5
                  กรกฎาคม 2562)
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151