Page 122 - kpiebook63005
P. 122

121








                          แม้อรอนงค์จะไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน แต่เธอจำาเป็นต้องลงแทนภูมิ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีให้กับภูมิ

                  อย่างไรก็ดี แกนนำาพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานคนหนึ่งวิเคราะห์ถึงความพ่ายแพ้ของอรอนงค์ว่า แม้ชื่อ
                  ของทักษิณ ชินวัตร จะยังขายได้ในพื้นที่เขตนี้ แต่กรณีนี้ประชาชนตั้งใจเลือกตัวผู้สมัครมากกว่าพรรค

                  กล่าวคือ วัฒนามีความพร้อมมากกว่า พร้อมทั้งจากการสนับสนุนของพรรค  และจากการสนับสนุน
                                                                                     239
                  ของครอบครัว ดังนั้น วัฒนาจึงทำากิจกรรมในพื้นที่มาก่อนอย่างต่อเนื่อง ส่วนอรอนงค์ไม่เก่งทางการเมือง

                  ไม่ว่าจะหาเสียง ลงพื้นที่ เข้าหาประชาชน ตลอดจนการปราศรัย แม้ว่าอรอนงค์รู้มานานแล้วว่าจะได้
                  ลงสมัครแทนภูมิ แต่ยังเข้าถึงประชาชนและลงพื้นที่ตามหมู่บ้านไม่มากนักและยังเข้าใจวัฒนธรรม

                  ชาวบ้านไม่พอ เนื่องจากชาวบ้านมองผู้แทนต้องเป็นที่พึ่งพาได้ในทุกโอกาส งานบุญ งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่
                  ฯลฯ แกนนำาคนดังกล่าวอ้างถึงคำาพูดของแกนนำาพรรคเพื่อไทยของภาคอีสานอีกคนว่า “คู่แข่งอรอนงค์

                  เขาลงพื้นที่นี้มาห้าหกปี แต่ของเราไม่ลงเลย เข้าไม่ถึงชาวบ้านเลย พรรคเพื่อไทยไปยึดผลโพลล์ในพื้นที่
                  มากไป จึงประมาท” อีกปัจจัยหนึ่งคือ คนเสื้อแดงในพื้นที่ไม่ได้คุ้นเคยกับอรอนงค์ พวกเขาจำานวนมาก

                  จึงไม่เลือกพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ใน 12 ตำาบลในอำาเภอเมืองเป็นเขตที่มีกลุ่มคนเสื้อเหลือง และ กปปส.
                  จำานวนหนึ่ง คนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่ชอบพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ขณะที่แกนนำาพรรคเพื่อไทยคนนี้

                  วิเคราะห์ว่า ในอนาคตหากมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคจะต้องพิจารณาคนใหม่เพื่อแข่งขันกับวัฒนา โดยมี
                  3 รายชื่อเท่านั้นที่พอจะแข่งกับวัฒนาได้คือ พงศกร อรรณนพพร  อดิศร เพียงเกษ  และ ธนิก มาสีพิทักษ์

                  (สัมภาษณ์วันที่ 5 พฤษภาคม 2562)




                          ประกำรที่หก กำรแย่งชิงคะแนนกันเองของพรรคเพื่อไทยและอนำคตใหม่


                          ประเด็นสำาคัญที่ทำาให้วัฒนาชนะคือ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน แย่งชิง

                  คะแนนกันเอง พื้นที่ 12 ตำาบลในอำาเภอเมืองมีคนรุ่นใหม่จำานวนมาก คนเหล่านี้จึงเลือกสันชัย ทะคง จากพรรค
                  อนาคตใหม่ด้วยคะแนนที่สูงแตกต่างจากคนอำาเภอซำาสูง ซึ่งห่างจากเมืองขอนแก่นออกไปประมาณ 35 กิโลเมตร

                  ที่เลือกสันชัยค่อนข้างน้อย กระนั้นก็ตาม หากนับเฉพาะคะแนนที่รวมกันของพรรคเพื่อไทย (34,115) และ
                  พรรคอนาคตใหม่ (21,449) จะพบว่ามี 55,564 คะแนน มากกว่าวัฒนาที่ได้ 46,276 คะแนน เห็นได้ว่า

                  คะแนนของสองพรรคการเมืองนี้สูงกว่าคะแนนของวัฒนาเกือบหนึ่งหมื่นเสียง ทั้งนี้ ประชาชนที่สนับสนุน
                  ฝั่งประชาธิปไตยไม่สามารถที่จะหันเหไปกาพรรคใดพรรคเดียวได้ เนื่องจากทั้งสองพรรคมีความโดดเด่น

                  ไม่ต่างกัน ในส่วนของผู้สมัคร แม้อรอนงค์และสันชัยเป็นคนใหม่ทั้งคู่แต่ด้วยกระแสของทั้งสองพรรค
                  จึงทำาให้คะแนนต้องถูกแย่งชิงกันไปเอง ก่อนหน้านี้วัฒนา ช่างเหลาวิเคราะห์ว่า คะแนนของพรรคเพื่อไทย

                  กับพรรคอนาคตใหม่จะส่งผลดีต่อตัวเขาเอง เขากล่าวว่า “ผมว่ายิ่งดี เพราะเขาไปแข่งกันเอง จากที่คะแนน
                  เป็นก้อน เขาจะไปชกกันเอง ไม่มีหรอกหลบให้กัน” (สัมภาษณ์วันที่ 23 ธันวาคม 2561)




                  239  แกนนำาพรรคเพื่อไทยคนนี้กล่าวว่า หากนำาเงินหนึ่งล้านมาชั่งจะได้นำ้าหนักเท่ากับหนึ่งกิโลกรัม พรรคการเมืองหนึ่ง
                  ให้ผู้สมัครรายละ 40 กิโลกรัมหากเชื่อว่าผู้สมัครคนนั้นจะชนะ แต่จะให้บางคน 10 หรือ 20 กิโลกรัม ลดหลั่นกันไปตาม
                  โอกาสที่จะชนะการเลือกตั้ง เขาเล่าอีกว่า ก่อนการเลือกตั้งสองวันสองคืนสุดท้าย มีพรรคการเมืองหนึ่งจ่ายให้ชาวบ้าน
                  หัวละ 500 บาท (สัมภาษณ์วันที่ 5 พฤษภาคม 2562)
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127