Page 160 - kpiebook62014
P. 160

ขณะที่เมื่อถามว่าหากเกิดความขัดแย้งขึ้นภายหลังการเลือกตั้งจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ พบว่าผู้ตอบ

               แบบสอบถามส่วนใหญ่ยังคงยืนยันค าตอบเดิมว่าสามารถแก้ไขได้โดยก่อนการเลือกผู้ใหญ่บ้านตอบว่าแก้ไขได้
               จ านวน 24 คน (ร้อยละ 72.7) และหลังการเลือกตั้งผ่านไปมีผู้ตอบว่าแก้ไขได้จ านวน 28 คน (ร้อยละ 84.8)

                       อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าพวกเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการ

               เลือกตั้งหรือไม่ พบว่าหลังการเลือกผู้ใหญ่บ้านผ่านไปมีผู้ที่ตอบว่าจะเข้าไปช่วยแก้ไขความขัดแย้งลดลง เหลือ
               เพียง 12 คน (ร้อยละ 36.4) จากเดิมก่อนที่จะเลือกผู้ใหญ่บ้านมีผู้คาดการณ์ว่าจะเข้าไปช่วยเหลือจ านวน 24 คน

               (ร้อยละ 72.7) โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของตน และหากมากคนยิ่งมากความ กลัว

               เกิดปัญหาความวุ่นวายมากขึ้น ขณะที่ประเด็นเรื่องการด าเนินการหากพบการซื้อสิทธิขายเสียง อาจตอบประเด็น

               นี้ไม่ได้มากนักเนื่องจากเมื่อภายหลังการเลือกผู้ใหญ่บ้าน แม้จะมีผู้ที่ไม่ตอบค าถามว่าพบเห็นการซื้อสิทธิขาย
               เสียงในหมู่บ้านหรือไม่จ านวน 4 คน (ร้อยละ 12.1) แต่มีผู้ที่ตอบว่าไม่พบว่ามีการซื้อสิทธิขายเสียงในหมู่บ้าน

               มากถึง 29 คน (ร้อยละ 87.9) ขณะที่ แม้จะมีผู้ที่ตอบว่า ยังมีการแจกเงินทองแต่น้อยลง จ านวน 4 คน (ร้อยละ

               12.1) แต่ไม่มีหลักฐานระบุชัดเจน จึงส่งผลให้ประเด็นเรื่องการที่จะด าเนินการต่อเมื่อพบการซื้อสิทธิขายเสียงใน

               ฐานะที่จะสะท้อนความเป็นพลเมืองที่มีความกระตือรือร้นตกไป อย่างไรก็ตามประเด็นที่ว่าหากมีผู้มอบเงินให้
               ท่านเพื่อให้ตัดสินใจเลือกพวกเขา ซึ่งมีจ านวน 2 คน (ร้อยละ 6.1) ตอบว่าจะรับไว้และเลือกเพราะความสงสาร

               และเป็นสัญญาใจ และมีจ านวน 1 คน (ร้อยละ 3) ตอบว่าจะรับเงินแต่ไม่เลือกผู้ที่ให้ แสดงให้เห็นว่ากระบวนการ

               รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้สร้างความตระหนักต่อการไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเพื่อสร้างชุมชนสมานฉันท์และ
               เข้มแข็งอาจยังไม่เพียงพอ อาจเนื่องด้วยเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจหรือควาไม่เพียงพอในการให้ความรู้หรือรณรงค์

                       อย่างไรก็ตาม เรื่องของการสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงนั้น

               จ าเป็นต้องมีการวิเคราะห์เนื้อหาและบริบทอื่นๆประกอบกันด้วยเพื่อให้ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามสามารถ
               วิเคราะห์ในเชิงลึกได้มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุ นี้ผู้วิจัยจึงได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น

               ปราชญ์ชาวบ้าน จิตอาสา และตัวแทนภาคประชาชน เกี่ยวกับผลการด าเนินกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อ

               สิทธิขายเสียงเพื่อน าสู่ชุมชนที่มีความสมานฉันท์เข้มแข็งว่าประสบความส าเร็จตามเป้าหมายเพียงใด โดยจะ
               กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องนี้ในส่วนถัดไป



               ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ที่เกี่ยวข้อง

                       การสัมภาษณ์เชิงลึกนี้ผู้วิจัยด าเนินการกับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องทั้งผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ปราชญ์
               ชาวบ้าน จิตอาสา และตัวแทนภาคประชาชน โดยเป็นการสัมภาษณ์ก่อนและหลังการเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2

               เพื่อให้ได้มุมมองเปรียบเทียบตั้งแต่เริ่มต้นด าเนินโครงการกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการที่การเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่

               2 จากผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในและนอกหมู่บ้านเป้าหมาย (หมู่ที่ 2) โดยประเด็นที่ท าการสัมภาษณ์ก่อนการเลือก




                                                                                                         151
   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165