Page 152 - kpiebook62014

คน คิดเป็นร้อยละ 6.1 โดยมีผู้ที่กล่าวว่าไม่พูดคุยกับใครเรื่องการเลือกตั้งมีอยู่จ านวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.1

ด้วยเหตุผลที่ว่าพูดไม่เก่ง ไม่มีเวลา ไม่ได้ไปพบใคร และไม่ทราบว่าจะคุยเรื่องใด

ประเด็นที่ 3 ความสมานฉันท์ของคนในชุมชน
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่า คิดว่าการเลือกตั้งสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้ในชุมชนจ านวน 29 คน

คิดเป็นร้อยละ 87.9 ด้วยเหตุผลที่ว่า คนในชุมชนมีการศึกษา คนในชุมชนมีความรู้มากขึ้น เป็นชุมชนเล็กๆ

เพราะมีการรณรงค์ ชุมชนมีความสามัคคี อย่างไรก็ตาม ในจ านวนร้อยละ 87.9 ที่เห็นว่าความสมานฉันท์ใน
ชุมชนอาจเกิดขึ้นได้เมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นไป เป็นไปในลักษณะของความคาดหวัง ดังเหตุผลที่ว่าหากทุกฝ่าย

ร่วมมือกันความสมานฉันท์ก็สามารถเกิดขึ้นได้เป็นต้น อย่างไรก็ตาม มีผู้ทีเห็นว่าความสมานฉันท์ไม่อาจเกิดขึ้น

ได้จ านวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.1 โดยเหตุผลที่ว่า อีกฝ่ายไม่ยอมรับ ชุมชนขาดความสามัคคีและต่างฝ่ายต่าง
พูดใส่กัน

ต่อประเด็นที่ว่าเมื่อมีการรณรงค์เรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง จะท าให้

บรรยากาศในชุมชนเป็นอย่างไรบ้างนั้น พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ จ านวน 16 คนคิดเป็นร้อยละ 48.5

มีการพูดคุยกันเรื่องไม่ซื้อสิทธิขายเสียง รองลงมาเป็นเรื่องของผู้สมัครมีแนวโน้มจะไม่แจกเงินทอง จ านวน 15
คน คิดเป็นร้อยละ 45.5 รองลงมาเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะไม่รับเงินจากผู้สมัครจ านวน 12 คน คิด

เป็นร้อยละ 36.4 และสุดท้ายคือเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจ านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 45.5

ประเด็นที่ 4 ความเป็นพลเมืองที่ตระหนักรู้ ตระหนักและสนใจความเป็นไปของชุมชน
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่าทราบเรื่องการเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ที่ก าลังจะเกิดขึ้นในเดือน

มิถุนายน 2561 จ านวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 93.9 มีเพียง 2 คนที่ตอบว่าไม่ทราบ คิดเป็นร้อยละ 6.1

ต่อข้อถามเรื่องทราบเรื่องการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงหรือไม่ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม
จ านวน 29 คนคิดเป็นร้อยละ 87.9 ทราบเรื่องนี้ มีเพียง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ที่ตอบว่าไม่ทราบเรื่องการ

รณรงค์ ซึ่งเป็นคนละคนกับผู้ที่ตอบว่าไม่ทราบว่ามีการเลือกตั้ง

ประเด็นที่ 5 ความเป็นพลเมืองที่มีความกระตือรือร้น

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่าหากพบว่าปัจจุบันมีแกนน ารณรงค์เรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์
พวกตนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการรนรงค์นั้นจ านวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 87.9 ด้วยเหตุผลที่ว่า คิดว่าเป็น

ประโยชน์ต่อประชาชน ต้องการให้ชุมชนสามัคคีสมานฉันท์เข้มแข็งและพัฒนา ไม่อยากให้มีการซื้อสิทธิขาย

เสียง อยากมีส่วนร่วม อยากทราบความเป็นมา อยากทราบว่าจะส าเร็จหรือไม่ และเพราะว่าเป็น อสม. อย่างไรก็

ตาม ไม่ได้ระบุรูปแบบของการเข้าไปมีส่วนร่วมกับการรณรงค์อย่างชัดเจน ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามว่าจะไม่เข้า
ไปมีส่วนร่วมนั้นมีอยู่จ านวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีเวลาและใจไม่รัก

143