Page 151 - kpiebook62014
P. 151

สรุปผลแบบสอบถำม “ก่อน” กำรเลือกผู้ใหญ่บ้ำนหมู่ที่ 2

                       แบบสอบถามจ านวนทั้งสิ้น 33 ชุด แบ่งเป็นเพศชายจ านวน 9  คน ร้อยละ 27.3 และ เป็นเพศหญิง

               จ านวน 21 คน ร้อยละ 63.6 ไม่ระบุเพศ 3 คน ร้อยละ 9.1  โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ 61 ปีขึ้นไป
               จ านวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 30.3 รองลงมาอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 51-60 ปี จ านวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 27.3

               รองลงมามีคือผู้ที่มีช่วงอายุระหว่าง 41-50 ป ี ร้อยละ 21.2 โดยมีผู้ที่มีช่วงอายุระหว่าง 31-40 ปี และ ระหว่าง 18-

               30 ปี จ านวน 2 และ 1 คน ตามล าดับ ไม่ระบุช่วงอายุจ านวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.1
               ด้านการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ส าเร็จการศึกษาระดับประถมหรือต ่ากว่าจ านวน 16 คน คิด

               เป็นร้อยละ 48.5 รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จ านวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 18.2 รองลงมาคือระดับ

               มัธยมศึกษาตอนปลาย จ านวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.1 ขณะที่ผู้ที่ส าเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และ ระดับ

               ปริญญา มีจ านวนเท่ากันที่ร้อยละ 9.1 ด้านการประกอบอาชีพพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ
               เกษตรกร ร้อยละ 42.4 รองลงมาคือรับจ้างทั่วไป ค้าขาย และรับราชการ ร้อยละ 21.2 ร้อยละ 15.2 และร้อยละ

               9.1 ตามล าดับ


               ประเด็นที่ 1    การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และ สัดส่วนของผู้ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง (พ.ศ. 2555)

                       ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่าพวกตนได้ไปใช้สิทธิเลือกผู้ใหญ่บ้านครั้งที่ผ่านมา (พ.ศ. 2555)

               จ านวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 81.8 โดยให้เหตุผลว่าไปเลือกผู้ใหญ่บ้านเพราะต้องการไปใช้สิทธิมากที่สุด
               รองลงมาคือต้องการได้ผู้น าที่ดีมาพัฒนาชุมชน มีเพียงจ านวน 5 คนหรือร้อยละ 15.2 ที่กล่าวว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิ

               ด้วยเหตุผลที่ว่าติดภารกิจอยู่กรุงเทพมหานครและยังไม่มีสิทธิเลือกผู้ใหญ่บ้านเนื่องจากเพิ่งย้ายส ามโนครัวเข้ามา

               ประเด็นที่ 2    เงื่อนไขส าคัญในการตัดสินใจเลือกผู้แทน ส าหรับประเด็นนี้ผู้วิจัย (พ.ศ.2555)

                       ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่าเงื่อนไขที่พวกตนใช้ตัดสินใจเลือกผู้ใหญ่บ้านครั้งที่ผ่านมา (พ.ศ.
               2555) คือเรื่องนโยบายที่ผู้สมัครเสนอมีความน่าสนใจ สามารถพัฒนาชุมชนได้ มากที่สุดจ านวน 29 คน คิดเป็น

               ร้อยละ 87.9 รองลงมาคือตัวผู้สมัคร เช่น เป็นญาติ เพื่อน เป็นผู้ที่มีธุรกิจรายได้ดีสามารถพึ่งพาได้ในเรื่องการเงิน

               หรือ เป็นที่ให้การสนับสนุนทรัพย์สินเงินทอง สิ่งของต่างๆในกิจกรรมต่างๆของชุมชนอยู่เสมอ เป็นต้น จ านวน

               11 คน คิดเป็นร้อยละ  33.3 โดยเงื่อนไขด้านทรัพย์สินเงินทองที่มอบให้นั้นไม่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเงื่อนไข
               ส าหรับการตัดสินใจ

                       ขณะที่ประเด็นที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพูดคุยกับคนในชุมชนเมื่อมีการเลือกตั้งมากที่สุดคือเรื่องตัวผู้สมัคร

               และผลงานของผู้สมัครจ านวนเท่ากันคือ 21 คน คิดเป็นร้อยละ  63.6 รองลงมาคือนโยบายของผู้สมัครจ านวน 20
               คน คิดเป็นร้อยละ  60.6 โดยทรัพย์สินเงินทองที่ผู้สมัครมอบให้เป็นเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึงน้อยที่สุด จ านวน  2







                                                                                                         142
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156