Page 101 - kpiebook62014

จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า ชุมชนเข้มแข็งในมุมมองของจิตอาสา มีความคล้ายคลึงกับมุมมองของผู้น า

ท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน และภาคประชาชน ในประเด็นเรื่องชุมชนที่เข้มแข็งต้องเป็นชุมชนที่มี
ความรักสามัคคีกัน ไม่แตกแยกหรือแบ่งพรรคแบ่งพวก ร่วมแรงร่วมใจ ประเด็นการมีผู้น าชุมชนที่ดี และ

ประเด็นการได้มาซึ่งผู้น าชุมชนที่ดีโดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียงของทุกคนในชุมชน อย่างไรก็ตาม จิตอาสามี

มุมมองเกี่ยวกับชุมชนเข้มแข็งเพิ่มเติมในประเด็นเรื่อง บทบาทของผู้น าที่ต้องมีความสามัคคีกันร่วมกัน

ก าหนดทิศทางการพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถึงอย่างนั้น มุมมองเรื่องของชุมชนเข้มแข็งตาม
แนวคิดของจิตอาสาก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายอื่นที่ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการไปแล้ว

ก่อนหน้า

2. “ท่านคิดว่าชุมชนของท่านมีต้นทุนทางสังคมหรือมีข้อดีอะไรบ้าง”

ในส่วนของต้นทุนทางสังคมของเทศบาลต าบลปอภาร กลุ่มจิตอาสามองว่าเรื่องของการที่ชุมชนมี
คนที่มีจิตอาสาและการที่คนในชุมชนพร้อมให้ความร่วมมือถือว่าเป็นจุดแข็งที่ส าคัญที่สุด

3. “หากต้องการสร้างชุมชนของท่านให้เข้มแข็งควรด าเนินการอย่างไร”

ส าหรับแนวทางการส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผลจากการระดมความคิดเห็นของกลุ่มจิตอาสา
ประกอบด้วย แนวทางดังต่อไปนี้

1. ทุกคนมีความคิดอะไรต้องการเสนอกันเพื่อร่วมกันท า

2. เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาแสดงความคิดเห็น
3. ทุกคนในหมู่บ้านรู้แพ้รู้ชนะ

4. ในการเลือกตั้งต้องมีการคุยกัน มีความสามัคคี

5. จัดท าป้ายรณรงค์ทั้ง 14 หมู่บ้าน และให้แกนน าเดินรณรงค์

6. แจกเงินก็ไม่รับ
7. แกนน าต้องช่วยกันดูว่ามีใครแจกเงิน

8. กระจายข่าวให้ไม่ขายเสียง เปิดเสียงตามสาย ปากต่อปาก รณรงค์เชิญชวน ท าใบปลิวแจก โดยแกน

น าเป็นคนแจก

9. เมื่อชาวบ้านมาขอเงินผู้สมัครต้องไม่ให้ และชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจว่าการแจกเงินไม่ดีแจะสร้าง
ความแตกแยก

10. ผู้สมัครทั้งสองฝ่ายต้องคุยกันว่าอย่าแข่งกันให้มาท างานร่วมกัน ถ้าฝ่ายไหนได้รับการเลือกเข้ามา

เพราะถ้าแข่งกันเราก็ต้องซื้อเสียงไม่มีก็ต้องไปกู้มา
11. ต้องรณรงค์ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงใครท าผิดจะต้องได้รับโทษ ชี้แจงโทษของการซื้อสิทธิขายเสียงให้

ชาวบ้านฟัง

92