Page 92 - 30423_Fulltext
P. 92
86
(4) กฎหมายอื่น เช่น กฎหมายห้ามเล่นการพนันกีฬาทุกชนิดผ่านทุกช่องทาง (กฎหมาย
ล าดับที่ 4)
ข้อสังเกตคือ กฎหมายส่วนใหญ่เพิ่งทยอยออกมาในห้วงกว่า 40 ปีมานี้เอง โดยเฉพาะนับแต่
ปี 2000 เป็นต้นมาที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีเป้าหมายออกไปในทางซึ่งมุ่งคุ้มครองตัว
นักกีฬาเป็นหลัก ถึงกระนั้น สหรัฐอเมริกาไม่ได้มีกฎหมายควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเช่น
หลายประเทศแต่อย่างใด ในเรื่องนี้จึงต้องอาศัยอ านาจของคณะกรรมการโอลิมปิกเพื่อให้เข้ามา
จัดการดูแล ผ่านการตั้ง the United States Anti-Doping Agency (USADA) ที่มิใช่หน่วยงานของ
รัฐบาลขึ้น รับผิดชอบในการทดสอบการโด๊ปยา และก าหนดกระบวนการควบคุมของทั้งประเทศ ตาม
แนวทางขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) ซึ่งเป็น
องค์กรเอกชนที่องค์กรกีฬานานาชาติยอมรับ ทว่าการใช้อ านาจของ USADA บางครั้งก็น าไปสู่ความ
ขัดแย้งกับนักกีฬาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นกรณีของ Tim Montgomery นักกรีฑาทีมชาติที่ได้รางวัล
มามากมาย รวมทั้งเหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งในปี 2004 USADA สั่งแบนเขาเป็นเวลา 4 ปี และสั่งปรับ
เงิน เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงเขาว่าพัวพันกับเหตุอื้อฉาวที่มีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายคนลอบ
ใช้สารกระตุ้นที่พัฒนาคิดค้นโดยบริษัทห้องปฏิบัติการเคมีในรัฐแคลิฟอร์เนีย (BALCO scandal) ทั้งที่
เขาไม่เคยมีผลทดสอบเป็นบวกทั้งก่อนและหลังการแข่งขันก็ตาม เขาอุทธรณ์ไปยังศาลกีฬาโลก (The
Court of Arbitration for Sport: CAS) ซึ่งศาลกีฬาระบุว่าการตรวจสอบการใช้สารกระตุ้นสามารถ
พิสูจน์ได้หลายทาง กรณีนี้แม้ไม่มีผลการทดสอบโดยตรง แต่พยานหลักฐานอื่นก็สามารถน ามาใช้
ทดแทนกันได้ โดยต้องปราศจากความขัดกันของพยานหลักฐาน จึงจะถือว่าเพียงพอส าหรับการตัดสิน
48
ว่านักกีฬารายนั้นมีความผิดฐานใช้สารต้องห้าม อนึ่ง มาตรการนี้ต่อมาได้เดินไปสู่การบังคับใช้ในลีก
กีฬาอาชีพหลักของสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด นักกีฬาที่ตรวจเจอว่าใช้สารกระตุ้นย่อมมีโทษอย่างหนัก
49
3.2.3.2 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา
ส าหรับกฎหมายของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาซึ่งไม่ใช่กฎหมายกีฬาเฉพาะนั้นมีความ
ทับซ้อนในหลายแขนง เรื่องที่หนังสือกฎหมายกีฬาจ านวนมากเห็นคล้ายกัน ไม่พ้นกฎหมายว่าด้วย
50
48 Ian S. Blackshaw, International Sports Law: An Introductory Guide, 78.
49 เช่นที่ NFL ท าการสุ่มตรวจนักกีฬาอยู่เป็นประจ า หากตรวจพบครั้งแรกจะถูกห้ามลงท าการแข่งขันจ านวน 4 เกม
พร้อมสั่งงดจ่ายเงิน หากพบซ ้าครั้งที่ 2 ห้ามลงเล่นอีก 6 เกม และถ้าพบครั้งที่ 3 ต้องหยุดเล่นเป็นเวลา 12 เดือนหรือ 1
ปีเต็ม, Andras Gurovits (Ed.), The Sports Law Review, 78: 273-274.
50 ประมวลจากสารบัญของหนังสือกฎหมายกีฬาหลายเล่ม โดยเฉพาะกับ 2 เล่มนี้ ดู Glenn M. Wong, Essentials of
Sports Law, v-xvii; Patrick K. Thornton, Sports Law (Massachusetts: Jones and Bartlett Publishers, 2011):
v-viii.