Page 219 - kpi22350
P. 219
ราชการให้พ้นจากตำแหน่ง และชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ข้าราชการที่ร่วมกระทำผิด
รายงานสถานการณ์ = กรณีการกีดกันและสมยอมในการเสนอราคาจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย
โดยการลงโทษให้ออกจากราชการ
นายกเทศบาลตำบลและพรรคพวกได้ร่วมกันกีดกันและสมยอมในการเสนอราคาจัดซื้อ
ครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง จำนวน 14 รายการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด
กรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ความว่า การกระทำของนายกเทศบาลตำบลมีความผิดทางอาญา
ฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็น
การเสียหายแก่รัฐ อีกทั้งยังเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีอำนาจในการอนุมัติที่เกี่ยวข้องกับ
ส่วนที่ 2 สถิติและข้อมูลสถานการณ์การกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่นไทย
การเสนอราคาดังกล่าวมุ่งหมายไม่ให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และเอื้อประโยชน์แก่ผู้เข้าเสนอ
ราคารายใดรายหนึ่งให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ
จากกรณีดังกล่าวนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายกเทศบาลตำบลให้พ้น
จากตำแหน่ง และส่งสำนวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับบริษัทเอกชนฐานหลีกเลี่ยง
การแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม กีดกันไม่ให้มีการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ หรือเอาเปรียบหน่วยงานรัฐ
= กรณีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการซ่อมแซมระบบประปาบาดาล
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อระบบประปาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีปัญหาจึงได้ดำเนินการให้
ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งเข้าทำการซ่อมแซม โดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 เดือนถัดมา
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลและผู้ถูกกล่าวหาอีกราย ได้ร่วมกันจัดทำเอกสารจัดซื้อจัดจ้างย้อนหลังว่า
องค์การบริหารส่วนตำบลได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดเพื่อซ่อมแซมระบบประปาบาดาล
จากกรณีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาต่อนายก
องค์การบริหารส่วนตำบล และผู้ถูกกล่าวหาอีกราย ฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้น
การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และจัดทำเอกสารหลักฐานเท็จ อันเป็นเหตุให้เกิด
ความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังถอดถอนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลและผู้ถูกกล่าวหาให้
พ้นจากตำแหน่ง
5.3 สถิติเรื่องร้องเรียนและชี้มูลความผิด โดยสำนักงานศาลปกครอง
สำนักงานศาลปกครองเป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่เป็นที่พึ่งพิงในการอำนวย
ความเป็นธรรมและความยุติธรรมทางปกครองให้แก่สังคม โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและธรรมาภิบาล
เป็นสำคัญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 197 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่
ของศาลปกครองให้มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีระหว่างหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน
อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมาย หรือการดำเนินกิจการทางปกครองของหน่วยงาน
ราชการ
208 สถาบันพระปกเกล้า
