Page 47 - 4 EDIT โรงเรียนสร้างคน พลเมืองสร้างชาติ The Series เล่ม 2 (2560).indd
P. 47

ที่สูงเกินไป)  ของตัวเองลงอย่างมาก  บางคนคิดว่าตัวเองเรียนมาสูงแล้วไม่จ�าเป็นต้อง
            เรียนเพิ่ม (นั่นเป็นความคิดที่อยู่ในกรอบ)
                    แต่!!!... อย่าลืมว่าเราก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องแม้จะเข้ามาเรียนหลายคนแต่ก็ใช่ว่า
            จะจบออกไปทุกคนเพราะความเข้มข้นของโรงเรียนพลเมืองที่ต้องการให้ทุกคนเป็น
            พลเมือง (ที่เป็นพลเมืองจริง ๆ ไม่มีเล่นๆ)  ด้วยวิชาการเรียน การสอนที่เจาะลึกลงไป
            นั้นส�าคัญในการด�ารงชีวิตส�าคัญต่อส่วนรวมการปลูกจิตส�านึกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่
            เรื่องยาก ที่จะท�าให้ทุกคนมีจิตส�านึก กล้าคิด กล้าท�า กล้าแสดงออก กล้าท�าในสิ่งที่ดี
            มีหลายคนไม่กล้า แต่เมื่อเข้ามาเรียนโรงเรียนพลเมืองก็เปลี่ยนไป (ตัวอย่างมีให้เห็น)
                    จากการโทรศัพท์ต่อสายตรงพูดคุยถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบ กับ ท่านนายกวีระ
            เสมัง โดยท่านนายกพูดติดตลก จนอดข�าไม่ได้ว่า…
                    “…กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด ร้อยเอ็ดไม่สิ้นพลเมืองฉันนั้น…”
                    “ส่วนตัวเคยท�างานเพื่อส่วนรวมมาก่อนและตอนนี้ก็ยังท�างานเพื่อส่วนรวม
            อยู่เพราะลักษณะนิสัยส่วนตัวเป็นแบบนี้อยู่แล้วพูดจาโผงผาง ตรงไป ตรงมา เสียงดัง
            ฟังชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่การท�างานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ท�างานไปเรื่อย ๆ ของตนเอง
            คนอื่นมักมองว่าเป็นบ้า (อีกแล้ว) ซึ่งลึก ๆ ในใจก็คิดว่าสถาบันพระปกเกล้าจะท�างาน
            เกี่ยวกับการเมืองเท่านั้น แต่เมื่อเข้ามาเรียนในโรงเรียนพลเมืองแล้วกลับได้รู้ว่า เอ้า!!!...
            ไม่ใช่ ที่ผ่านมาคิดผิดไปเองตลอดเลย สถาบันพระปกเกล้าไม่ได้ท�างานแค่การเมือง แต่
            ท�างานด้านพลเมืองและเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยด้วย”
                    ความรู้ และมิตรภาพที่เริ่มจาก …เก็บเล็กผสมน้อย…
                    แน่นอนว่าสิ่งที่เราได้คือจิตส�านึกแน่ ๆ แต่สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาอีกคือได้เพื่อนใหม่
            มิตรภาพใหม่ ๆ การศึกษาไม่ได้เป็นตัววัดความส�าเร็จในชีวิตแต่การศึกษาเป็นเพียงองค์
            ความรู้ที่เราควรมีติดตัวอย่าคิดว่าตนเองรู้มามากแล้วไม่จ�าเป็นต้องรู้อะไรอีก แต่ให้คิดว่า
            เรายังไม่รู้อะไรใหม่ ๆ เราต้องเข้าไปเรียนรู้มัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอ�าเภอพนมไพร
            ก็เป็นเช่นนั้น จากเดิมที่ต้องแทบจะไปขอร้องให้เข้ามาเรียนให้เข้ามาศึกษาหาความรู้
            จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ลงมาให้ความรู้ถึงที่ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ชุมชน ชาวบ้าน
            ขอร้องให้พื้นที่จัดการเรียนการสอนในเรื่องที่สนใจ  หากจะให้กล่าวถึงนโยบายสาธารณะ
            ที่นักเรียนพนมไพรท�าเพื่อจบการศึกษาเหมือนเช่นโรงเรียนพลเมืองอื่น ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น
            นโยบายการจัดการขยะเหมือนกัน ความต่อเนื่องของพลเมืองในพื้นที่ยังคงด�าเนินต่อไป
            อย่างเข้มแข็ง ซึ่งเห็นได้จากการลงพื้นที่ถอดบทเรียนกิจกรรมโคก หนอง นา โมเดลของ
            ผู้เขียนเอง นักเรียนพลเมืองสามารถรวมกลุ่มท�ากิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่ได้ส�าเร็จ อีกทั้งยัง
            ขยายโครงการนี้สู่ชุมชน สู่นักเรียนในโรงเรียนได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและผู้เขียน

                                                                   I
                                       “โรงเรียนสร้างคน……พลเมืองสร้างชาติ” เล่ม 2   2560  35
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52