Page 75 - kpi22173

“บทบาทสตรีถิ่นอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบานในการเสริมสรางการมีสวนรวมของชุมชน
เพื่อปองกันและควบคุมการแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุใหม 2019 ในจังหวัดเชียงใหม”

3.2.2 เครื่องมือที่ใชในการวิจัย

เครื่องมือที่ใชในการเก็บรวบรวมขอมูลเปนแบบสัมภาษณเชิงลึก (In-depth Interview)

เพื่อเก็บรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับบทบาทสตรีถิ่นอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบานในการเสริมสรางการ

มีสวนรวมของชุมชนเพื่อปองกัน เฝาระวังและควบคุมการแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ
ใหม 2019 ในจังหวัดเชียงใหม

3.2.3 การเก็บรวบรวมขอมูล

ผูวิจัยดําเนินการเก็บรวบรวมขอมูลจากผูใหขอมูลสตรีอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบาน
ที่ในพื้นที่ตําบลสุเทพ ตําบลแมเหียะ ตําบลฟาฮามและตําบลทาศาลา อําเภอเมืองเชียงใหม จังหวัด

เชียงใหม ตามจํานวนที่กําหนดไวในขั้นตอนการคัดเลือกกลุมผูใหขอมูล จํานวน 40 คน สัมภาษณเชิงลึก

ดวยตนเอง ระหวางวันที่ 20 กุมภาพันธ 2564 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2564

3.2.4 การวิเคราะหขอมูล

การวิเคราะหและสังเคราะหขอมูลจากการสัมภาษณเชิงลึกสตรีถิ่นอาสาสมัครสาธารณสุข

ประจําหมูบานในพื้นที่ตําบลสุเทพ ตําบลแมเหียะ ตําบลฟาฮาม ตําบลทาศาลา อําเภอเมืองเชียงใหม

จังหวัดเชียงใหม เปนการวิเคราะหขอมูลเชิงคุณภาพ ผูวิจัยใชวิธีการวิเคราะหเนื้อหา (ชาย โพธิสิตา, 2550)

มีขั้นตอน ดังนี้

3.2.4.1 การจัดระเบียบทางกายภาพของขอมูล ไดแก การถอดไฟลบันทึกเสียงและขอมูลที่ได
จดบันทึกมาแบบคําตอคําและขัดเกลาภาษาและตรวจความถูกตองของขอมูล

3.2.4.2 การจัดเก็บขอมูล ผูวิจัยนําขอมูลที่ไดมาจัดแยกตามกลุมผูใหขอมูลหลักและจําแนก

เนื้อหาตามประเด็นที่ไดเก็บขอมูล

3.2.4.3 การจัดระเบียบเนื้อหาขอมูล ผูวิจัยไดอานเนื้อหาทั้งหมดของขอมูลและเลือกบันทึก

ประเด็นหลักจําแนกตามกลุมผูใหขอมูลหลักจนครบถวน

3.2.4.4 การจัดกลุมขอมูล นําขอมูลที่ไดจากการจําแนกประเด็นมาจัดกลุมตามเนื้อหาเปน

หมวดหมู

3.2.4.5 การสรุปและการตีความ ผูวิจัยไดวิเคราะหและตีความจากเนื้อหาที่ไดจากขอมูล

สรุปและนําเสนอขอมูลในรูปตารางประกอบการบรรยาย

74