Page 53 - kpi21386
P. 53
ผลการศึกษากลุ่มประชาชนทั่วไป
3.7 ข้อกังวลต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุข
ในประเด็นข้อกังวลของประชาชนต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขนั้น พบว่า ผู้ตอบส่วนใหญ่
จ�านวน 933 คน (ร้อยละ 58) มีความกังวลว่ากระบวนการพูดคุยฯ จะไม่สามารถหยุดความรุนแรงได้จริง
และ การพูดคุยฯ จะยิ่งท�าให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นกว่าเดิม มีจ�านวน 907 คน (ร้อยละ 56.3) รองลงมาคือ
กังวลว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่ท�าตามที่ตกลงกัน จ�านวน 889 คน (ร้อยละ 55.3) สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ข้อกังวลที่ว่า
กระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุขอาจท�าให้หมดโอกาสที่จะเป็นเอกราชนั้น มีผู้ตอบในข้อนี้จ�านวน 435 คน
(ร้อยละ 27) และมีผู้ตอบว่า ไม่รู้ ขอไม่ตอบและไม่ระบุค�าตอบนั้นมีจ�านวนค่อนข้างสูงในข้อนี้ คือจ�านวน 936 คน
(ร้อยละ 58.2)
แผนภาพที่ 32 : ข้อกังวลต่อกระบวนการพูดคุย
ไมสามารถหยุดความรุนแรงไดจริง 58
สถานการณรุนแรงขึ้นกวาเดิม 56.3
ฝายใดฝายหนึ่งไมทำตามที่ตกลงกัน 55.3
ฝายใดฝายหนึ่งไมใหเกียรติกัน 48.5
ฝายใดฝายหนึ่งไมรับฟงความตองการของอีกฝายอยางจริงจัง 48.1
ฝายใดฝายหนึ่งไมมีอำนาจจริงที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณในพื้นที่ 46.1
ฝายใดฝายหนึ่งใชการพูดคุยเพื่อหาขาวเทานั้น 43.9
รัฐแคตองการยุติความรุนแรง แตไมตั้งใจจะสรางสันติภาพที่ยั่งยืน 41.9
ฝายใดฝายหนึ่งใชการพูดคุยเพื่อซื้อเวลา หรือ ยืดระยะในการตอสู 40.5
การพูดคุยเปนการจัดฉาก รัฐไมมีความจริงใจ 39.5
อาจจะยกระดับสถานการณ ทำใหตางชาติเขามาแทรกแซง 37.8
กลายเปนการตกลงกันของรัฐบาลไทย มาราปาตานี 34.3
และรัฐบาลมาเลเซีย ที่ประชาชนไมไดอะไร
อาจทำใหหมดโอกาสที่จะเปนเอกราช 27
อื่นๆ (ไมมีความสุขอีกเลย) 0.6
0 10 20 30 40 50 60 70 80
3.8 ความส�าคัญของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการสร้างสันติภาพ
ผู้ตอบแบบสอบถามแต่ละคนสามารถเลือกบุคคลหรือกลุ่มที่คิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพ
ได้ทั้งหมด 3 ตัวเลือก โดยพบว่า ผู้ตอบ จ�านวน 454 คน (ร้อยละ 28.2) เลือกรัฐบาล ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ถูกเลือก
มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือ ผู้น�าศาสนาอิสลาม จ�านวน 242 คน (ร้อยละ 15) และนักการเมือง
ท้องถิ่น จ�านวน 175 คน (ร้อยละ 10.9) แต่ทั้งนี้ มีผู้ตอบว่า “ไม่รู้” และ “ขอไม่ตอบ” รวมกันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง
ของผู้ตอบแบบสอบถาม คิดเป็นจ�านวน 867 คน (ร้อยละ 53.9)
52

