Page 221 - kpi20902
P. 221

215



                            กำรคัดเลือกตัวก ำนัน กลำยเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของต ำบลหนองสำหร่ำย ซึ่งเป็นต้นแบบส ำหรับ

                 กำรเรียนรู้ควำมเป็นประชำธิปไตยจำกฐำนรำกอย่ำงแท้จริง ซึ่งกระบวนกำรดังกล่ำวถูกน ำเสนอ

                 ให้น ำไปใช้ในกำรเมืองระดับท้องถิ่นเพื่อให้เป็นมำตรฐำนเดียวกัน แต่ยังมีควำมยุ่งยำกอยู่บ้ำงในกำรน ำไป

                 ใช้จริง แต่ก็ยังถือว่ำธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่ำวเป็นรูปแบบกำรแก้ไขปัญหำ นักกำรเมืองที่มีควำมประพฤติ

                 ที่ไม่เหมำะสม ไม่ให้มีโอกำสมำใช้อ ำนำจในทำงที่ผิดหรือท ำกำรทุจริตต่อไป


                            3) การเลือกนายกองค์การบริหารส่วนต้าบลหรือในปัจจุบันนายกเทศบาลต้าบล    ตั้งแต่

                 ช่วงเวลำที่ต ำบลหนองสำหร่ำยได้เข้ำสู่ยุคของกำรจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบกำรเลือกตั้งแบบ

                 ใหม่ที่ใช้กำรหำเสียงเลือกตั้งในระบบตัวแทนตำมแบบกระบวนกำรประชำธิปไตยได้สร้ำงปัญหำให้กับโครงสร้ำง

                 กำรปกครองดูแลในรูปแบบของชุมชนต ำบลหนองสำหร่ำยที่ใช้วิธีกำรคัดสรรคนเข้ำไปท ำหน้ำที่

                 เป็นตัวแทนจำกควำมน่ำเชื่อถือ เช่น ผู้สูงอำยุ ประธำนอำชีพ คุณครู และผู้เป็นปรำชญ์ชำวบ้ำนที่ได้รับกำร

                 ยอมรับจำกชุมชน ท ำให้ได้มติที่เป็นเอกฉันท์ ไม่มีกำรแบ่งฝักแบ่งฝ่ำยกันจนเกิดควำมแตกแยกหรือข้อขัดแย้ง

                 กัน โดยทำงสภำ 79  สภำชุมชนต ำบล ประชำคมต ำบล หรือสภำองค์กรชุมชนระดับต ำบลในเวลำต่อมำ

                 ก็สำมำรถที่จะใช้ระบบควำมสัมพันธ์ภำยในต ำบลเองเป็นตัวหยุดยั้งควำมแตกแยกดังกล่ำวได้ เช่น คนที่

                 ลงเลือกตั้งเป็นนำยก อบต. ฝ่ำยหนึ่งเป็นลุง อีกฝ่ำยเป็นหลำน เข้ำกับฝ่ำยกำรเมืองคนละขั้วท ำให้

                 จำกกลุ่มชำวบ้ำนที่ไม่มีฝักฝ่ำย ต้องแยกออกเป็น 2 พวก สภำองค์กรชุมชนต ำบลจึงได้น ำเสนอกรณีพิพำทนี้

                 เข้ำสู่ที่ประชุมสภำองค์กรชุมชนต ำบล โดยหำข้อยุติควำมขัดแย้งไม่ให้เกิดเหตุกำรณ์บำนปลำย โดยสำมำรถ

                 หำข้อสรุปแห่งควำมขัดแย้งได้ โดยมีกำรจัดแบ่งเวลำกำรขึ้นเป็นนำยกองค์กำรบริหำรส่วนต ำบลในสมัยนั้น

                 และอีกฝ่ำยหนึ่งขึ้นเป็นฝ่ำยสภำหรือเป็นรองนำยกองค์กำรบริหำรส่วนต ำบล และขึ้นเป็นนำยกฯ ในสมัยต่อไป

                 โดยทำงสภำชุมชนต ำบลได้ก ำหนดเวลำในกำรด ำรงต ำแหน่งของนำยกองค์กำรบริหำรส่วนต ำบลได้อีกด้วย

                 คือ จำก 4 ปี ตำมกฎหมำยกำรเลือกตั้ง หลังจำกนั้นเมื่อหมดวำระลงสมัยต่อไป ต้องเปลี่ยนตัวผู้บริหำรซึ่งก็คือ

                 รองนำยกองค์กำรบริหำรส่วนต ำบลนั่นเองขึ้นเป็นผู้บริหำรในสมัยต่อไป แต่ทั้งสองทีมจะต้องช่วยกันพัฒนำ

                 ต ำบล เพรำะเป็นเป้ำหมำยของกำรคัดเลือกตัวแทนอยู่แล้ว ซึ่งข้อสรุปของสภำชุมชนต ำบลก็ได้มี

                 กำรน ำมำปรับใช้ได้จริง  ดังที่ก ำนันคนแรกของต ำบลหนองสำหร่ำยที่มีส่วนส ำคัญในกำรก่อตั้งต ำบล

                 หนองสำหร่ำย คือ นำยชนะ สุขพรหม ได้ให้สัมภำษณ์ไว้ถึงเหตุของกำรถอนตัวจำกกำรเลือกตั้งนำยกเทศบำล

                 ต ำบลเพื่อไม่ให้เกิดควำมขัดแย้งระหว่ำงคนในต ำบล เนื่องจำกประชำชนส่วนใหญ่เป็นญำติพี่น้องกันเอง

                 และเป็นกำรแสดงถึงกำรอุทิศตัวเพื่อประโยชน์ของคนในชุมชน โดยไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตน และควำม

                 ปรำรถนำในกำรดึงศักยภำพของคนในต ำบลให้เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำควำมเหลื่อมล้ ำ

                 ด้ำนเข้ำสู่อ ำนำจทำงกำรเมือง (วสันต์  ลิ่มรัตนภัทรกุล, 2558) ว่ำ
   216   217   218   219   220   221   222   223   224   225   226