Page 181 - kpi20902
P. 181

180



              ลดควำมเหลื่อมล้ ำในกำรเข้ำถึงแหล่งทุนให้กับชำวต ำบลหนองสำหร่ำยให้หลุดพ้นจำกข้อจ ำกัดทำงกำรเงินและ

              ปัญหำภำวะหนี้สินทั้งๆ ที่ไม่มีเงินตั้งแต่เริ่มต้น แต่เมื่อคนในต ำบลมีควำมมุ่งมั่นที่จะจัดตั้งสถำบันกำรเงิน

              ที่ประชุมสภำองค์กรชุมชนจึงมีมติให้เริ่มด ำเนินกำรสถำบันกำรเงินชุมชนโดยไม่ต้องรอเงินกู้จำกกระทรวงกำรคลัง


                            “กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ที่พัฒนาไปสู่สถาบันการเงิน คือการมองไปหาหนี้ที่มีอยู่


                     และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายออกไป จากนั้นกลุ่มออมทรัพย์จึงมารวมดูว่ามีทั้งหมดเท่าไหร่
                     ทั้งต าบล เป็นการปรึกษาหารือกับทั้งกลุ่มออมทรัพย์กับกองทุนหมู่บ้านท าให้ทราบว่า


                     ทั้งต าบลมีเงินออมทั้งหมด 12 ล้าน ซึ่งรวมไปถึงยอดของการออมเงินของแต่ละกลุ่มกิจกรรม
                     ในต าบลรวมอยู่ใน 12 ล้านนี้ จึงร่วมกันหาแนวคิดที่จะสร้างให้เงิน 12 ล้าน มีมากขึ้นกว่าที่มี


                     อยู่นี้ ซึ่งก็ได้มีการปรึกษาไปทั้งพัฒนาการ และ ธ.ก.ส. เรื่องการยกกลุ่มออมทรัพย์ให้
                     กลายเป็นในรูปแบบของธนาคารที่ชาวบ้านต้องการว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด


                     ซึ่งได้ศึกษารูปแบบจากธนาคารของทั้งไทยและต่างประเทศ โดยในขั้นแรกเลยคือเราจะต้อง
                     มีที่ท าการธนาคาร จะต้องมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มีโปรแกรมในการจัดการระบบฝาก-ถอน


                     มีสมุดเงินฝากถอน คือจะต้องมีครบองค์ประกอบของธนาคารจึงจะสามารถตั้งเป็นธนาคารได้

                     กลุ่มออมทรัพย์จึงได้ประชุมกรรมการซึ่งในขณะนั้นเงินที่จะน ามาตั้งต้นสร้างธนาคารไม่มีเลย

                     ดังนั้นกลุ่มออมทรัพย์จึงได้ประชุมและมอบเงินตั้งต้นในการด าเนินการ 3 หมื่นบาท กองทุน

                     หมู่บ้านหนองขุย ให้ 3 หมื่นบาท แล้วจึงมีการประชาคมชาวบ้านเรื่องสถานที่ที่จะตั้งเป็น

                     ธนาคารว่าควรจะก่อสร้างที่ไหน และมีมติให้ตั้ง ณ หมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มออมทรัพย์

                     และมีความรู้เรื่องการเงินเป็นอย่างดีและได้รับรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ ในปี พ.ศ.2547

                     อีกทั้งยังท าให้กองทุนหมู่บ้านทั้ง 9 หมู่ได้รับรางวัลด้วย” สัมภำษณ์ นำยศิวโรฒ จิตนิยม

                     ผู้จัดกำรสถำบันกำรเงินชุมชนบ้ำนหนองสำหร่ำย วันที่ 23 สิงหำคม 2562


                            กระบวนกำรในกำรชักชวนให้คนในชุมชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรก่อตั้งสถำบันกำรเงินชุมชน

              ก็คือ มติจำกที่ประชุมหมู่บ้ำนให้เงินตั้งต้นจำกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ 3 หมื่นบำท กองทุนหมู่บ้ำนหนองขุยอีก

              3 หมื่นบำท และในวันเปิดสถำบันกำรเงินสมำชิกที่เข้ำร่วมมีประมำณ 500 คน โดยทุกคนได้รับกระปุกออมสิน

              และจะต้องหยอดกระปุกวันละ 3 บำททุกๆ วัน ซึ่งในวันเปิดท ำกำรมีกำรเปิดกระปุกออมสินพบว่ำมีกระปุก

              ออมสินเข้ำร่วมสูงถึง 2,000 กระปุก จำกที่แจกไป 2,700 กระปุก จำกกำรเปิดกระปุกเมื่อวันที่ 1 สิงหำคม

              พ.ศ.2549 รวบรวมเงินได้สูงเกือบ 3-4  แสนบำท แสดงให้เห็นถึงควำมตั้งใจของคนในต ำบลหนองสำหร่ำย

              และสำมำรถจะท ำให้ต ำบลหนองสำหร่ำยมีเงินที่หมุนเวียนอยู่ในระดับสูงถึง 30 ล้ำนบำทและมีเงินฝำกอยู่ใน

              ธ.ก.ส. อีก 2 ล้ำนบำท โดยในปัจจุบันมีสมำชิกสถำบันกำรเงินชุมชนเพิ่มขึ้นเป็น 2,400–2,700 คน โดยสมำชิก
   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186