Page 53 - kpi19912
P. 53
ธรรมชาติ 5 ตัว อุบัติเหตุจากรถชน 3 ตัว จากการลําเอางา 1 ตัว และเสียชีวิตโดยไมํทราบสาเหตุ 2
ตัว ซึ่งนับเป็นเรื่องวิกฤติแล๎ว นางโซไรดา ซาลวาลา มูลนิธิเพื่อนช๎าง กลําววํา ช๎างปุาล๎นปุาท าลายพืช
การเกษตรชาวบ๎าน เรื่องนี้นําเป็นหํวง เนื่องจากเป็นสาเหตุท าให๎ช๎างปุาต๎องถูกลํา และท าร๎าย เพราะ
ความขัดแย๎งระหวํางคนกับช๎างอาจสํงผลตํอช๎างถูกท าร๎าย และถูกฆําตายเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ช๎างเป็น
สัตว๑คูํบ๎านคูํเมืองของไทย อดีตไมํมีใครอยากท าร๎าย แตํหากไมํมีการแก๎ไขช๎างออกมาท าลายพืช
การเกษตรอาจท าให๎ชาวบ๎านถูกกดดันจนไมํสามารถควบคุมอารมณ๑ได๎ ต๎องท าร๎ายช๎างขึ้น ยิ่งจะท าให๎
สถานการณ๑ทวีความรุนแรง โดยตั้งแตํปี 2536-2553 รพ.ช๎างของมูลนิธิเพื่อนช๎าง รักษาและบริบาล
ช๎างเจ็บปุวยโดยไมํมีคําใช๎จํายใดๆ แยกเป็นช๎างปุวยใน 531 ราย ช๎างปุวยนอก 531 ราย สัตวแพทย๑
สัญจร 2,176 ราย รวมทั้งสิ้น 3,238 ราย
22 พฤศจิกายน 2557 มีการส ารวจจ านวนช๎างพบวํา ที่ปุาเขาอํางฤาไนมีช๎างปุาอยูํราว
400 เชือก แตํละเชือกจะหาอาหารในพื้นที่กว๎างราว 4,300 ไรํ ในขณะที่ผืนปุาเขาอํางฤานัยมีพื้นที่อยูํ
ทั้งหมด 683,750 ไรํ ท าให๎ช๎างมีแหลํงอาหารไมํพอกิน เจ๎าหน๎าที่คาดการณ๑วําพื้นที่ปุา 1,079 ตาราง
กิโลเมตรนี้ จะถึงจุดอิ่มตัวในการรอบรับประชากรช๎างปุาในไมํช๎า และจะยิ่งมีช๎างปุาออกมาหากินใน
ที่ดินชาวบ๎านมากขึ้น ผู๎อ านวยการมูลนิธิสิ่งแวดล๎อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) บอกวํา
การเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ โดยการปลูกพืชที่ช๎างกินได๎ และท าโปุงเทียมในปุา คือสิ่งที่สามารถท าได๎
ในตอนนี้ แตํวําโปุงเทียมก็เป็นเพียงอาหารเสริม ของสัตว๑ไมํใชํอาหารหลัก ที่ผํานมาเจ๎าหน๎าปุาไม๎ที่นี่
ได๎ปลูกพืชกินได๎เพื่อแก๎ปัญหาช๎างออกมาท าลายพืชผลชาวบ๎านแตํก็ไมํเพียงพอ ลําสุดเตรียมท าคูกั้น
ช๎างยาว 100 กิโลเมตรตามชายปุาเขาอํางฤาไน ฝั่งอ าเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะลง
มือท าในปลายปีนี้ เพื่อแก๎ปัญหาคนกับช๎าง
24 พ.ย. 2560 นายสุวิทย๑ ค าดี ผวจ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยวํา ที่ผํานมาได๎รํวมกับ
หนํวยงานที่เกี่ยวข๎อง ทั้งสํวนของอ าเภอสนามชัยเขต อ าเภอทําตะเกียบ เขตรักษาพันธุ๑สัตว๑ปุาเขา
อํางฤาไน เจ๎าหน๎าที่ปุาไม๎ ก านัน ผู๎ใหญํบ๎าน ผู๎น าท๎องถิ่น ตลอดจนจิตอาสาอาสา ตั้งชุดเฝูาระวัง
ติดตามผลัดดัน โดยเฉพาะมุํงเน๎นการปูองกันช๎างปุาไมํให๎เข๎าไปท าลายพืชผลทางการเกษตร
โดยเฉพาะนาข๎าว หรือเข๎าไปใกล๎ชุมชน ซึ่งก็ได๎ผลในระดับที่นําพอใจ แตํเนื่องจากช๎างปุาซึ่งเดิมมี
จ านวนมากอยูํแล๎ว เกิดเรียนรู๎พฤติกรรมของคน จึงกระจายออกเป็นกลุํมเล็ก กลุํมละ 10 – 30 ตัว
แยกกันออกหากิน ซึ่งเจ๎าหน๎าที่ก็ต๎องปรับแผนการท างาน ซึ่งต๎องเพิ่มจ านวนชุดเฝูาระวังติดตามมาก
ขึ้น ด๎วย จึงสั่งการให๎อ าเภอทั้งสองอ าเภอ ได๎ฝึกทักษะและวิธีการผลักดันหรือไลํต๎อนช๎าง แกํ
เจ๎าหน๎าที่ในแตํละชุด เพื่อเพิ่มความเข๎มและเน๎นความปลอดภัยทั้งฝุายของเจ๎าหน๎าที่และช๎างปุา ที่
อาจจะประจันหน๎ากัน นอกจากนี้ยังสั่งการให๎ปศุสัตว๑จังหวัด จัดท าโครงการ การเลี้ยง โค กระบือ
ให๎แกํเกษตรกรในพื้นที่ ที่สนใจ โดยจัดตั้งเป็นกลุํมขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะสร๎างรายได๎มากขึ้นมากกวํา
การเกษตรแล๎ว ยังเป็นการเปลี่ยนพื้นที่การเกษตร ที่มีผลผลิตที่เป็นอาหารช๎างปุา เป็นการเลี้ยงสัตว๑
แทน
นายสุวิทย๑ ค าดี ผวจ.ฉะเชิงเทรา กลําวด๎วยวํา สํวนการแก๎ปัญหาระยะยาวเนื่องจากคูกัน
ช๎างในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีระยะทางถึง 163 กม.และมีจุดเข๎าออกของช๎างปุาจ านวนมาก หาก
น ามาประติดประตํอกันจะรวมเป็นระยะทางถึง 17 กม. ก็จะด าเนินการ สร๎างรั้วกันช๎างในจุดที่เป็น
ทางเข๎าออกของช๎างปุาเป็นประจ า เป็นเสาไฟฟูาคอนกรีตอัดแรง ขนาดความหนา 1 ฟุต สูง 6
เมตร ขุดฝังดิน 2.5 เมตร สูงจากพื้นที่ดิน 3.5 เมตร แตํละชํวงมีความหํางกัน 3.5 เมตร แล๎วน า
เหล็กข๎ออ๎อย มาร๎อยเชื่อมติดกับเสา หํางกันชํวงละประมาณ 80 ซม. ขณะนี้การไฟฟูาฉะเชิงเทราได๎
สนับสนุนเสาไฟฟูา จ านวน 40 ต๎น มาด าเนินการกํอสร๎างในจุดที่สุํมเสี่ยงเสร็จเรียบร๎อยแล๎ว และใน
46