Page 107 - kpi19912
P. 107

มันออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกัน ที่ผํานมามีการแก๎ปัญหาด๎วยวิธีการตํางๆ เชํน ใช๎รั้วปิดกั้น สร๎างโปุง
                   เทียม สร๎างสิ่งกีดขวาง แตํช๎างได๎เรียนรู๎ และสามารถเข๎ามาในพื้นที่ได๎ ท าให๎ต๎องการแก๎ปัญหาใหมํใน

                   แตํละพื้นที่ สํวนการจัดอบรบรมให๎เจ๎าหน๎าที่มีความรู๎ในเรื่องช๎าง และเฝูาระวังช๎างก็ยังคงด าเนินการ
                   อยํางตํอเนื่อง
                          ในที่สุด จังหวัดได๎ท าหนังสือถึงกรมอุทยานฯ เพื่อให๎เรํงสํงผู๎เชี่ยวชาญเข๎ามาแก๎ปัญหา โดยที่
                   ผํานมา กรมอุทยานฯ ได๎ให๎งบประมาณ  12  ล๎านบาท เพื่อสร๎างโปุงเทียม และจัดชุดเฝูาระวังแล๎ว

                   สํวนการจํายคําชดเชยต๎องเป็นไปอยํางเหมาะสม
                           20  พฤษภาคม  2559  ที่ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และภาคีเครือขําย จัด
                   เสวนาเรื่อง “คน ปุา ช๎าง…ความอยูํรอดทํามกลางภัยแล๎ง” เพื่อน าเสนอข๎อมูลและขยายผลงานวิจัยที่

                   เกี่ยวข๎องกับการแก๎ปัญหาความขัดแย๎งระหวํางคนกับช๎างปุา โดยมี ศ.นพ.สุทธิพันธ๑ จิตพิมลมาศ
                   ผู๎อ านวยการ สกว. ผศ.ดร.บัญชร แก๎วสํอง ผู๎อ านวยการฝุายวิจัยเพื่อท๎องถิ่น สกว. นักวิจัยชาวบ๎าน
                   และนักวิชาการ รวมทั้งหนํวยงานตํางๆ เข๎ารํวม
                          ด๎านนายชิษณุวัฒน๑ มณีศรีข า ผู๎ประสานงานวิจัยเพื่อท๎องถิ่น ศูนย๑ประสานงานวิจัยเพื่อ
                   ท๎องถิ่น จังหวัดสมุทรสงคราม กลําววํา ที่ผํานมาศูนย๑ประสานงานวิจัยเพื่อท๎องถิ่น จังหวัด

                   สมุทรสงคราม และศูนย๑ประสานงานวิจัยเพื่อท๎องถิ่น ภาคตะวันออก ได๎ให๎การสนับสนุนงานวิจัยใน
                   พื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ซึ่งแกนน าชุมชนได๎ด าเนินการวิจัย เพื่อค๎นหาแนวทางการลด
                   ผลกระทบจากช๎างกินพืชไรํ ในพื้นที่ที่ได๎รับผลกระทบ โดยได๎ด าเนินการวิจัยมาตั้งแตํเดือน

                   พฤศจิกายน 2546 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งโครงการได๎ข๎อค๎นพบแนวทางในการลดผลกระทบจากช๎างกินพืช
                   ไรํของตนเอง โดยในเบื้องต๎นได๎ท าการเก็บข๎อมูลของพื้นที่ซึ่งเกี่ยวข๎องกับคนและช๎าง น าข๎อมูลความรู๎
                   มาวิเคราะห๑และวางแผนทดลองปฏิบัติการและการหาข๎อสรุปเพิ่มเติมตํอเนื่องจนเกิดแนวทางการ
                   จัดการปัญหาช๎างปุาได๎อยํางเป็นรูปธรรม กระทั้งขยายผลการวิจัย น าไปสูํการแลกเปลี่ยนเรียนรู๎ และ

                   ยกระดับการแก๎ปัญหาทั้งในระดับพื้นที่ ตํางพื้นที่ และในระดับนโยบาย รวมทั้งการพัฒนาเครือขําย
                   ความรํวมมือของชุมชนเชื่อมโยงกับหนํวยงานราชการ เชํน กรมอุทยานฯ ผู๎วําราชการจังหวัด
                   โรงเรียน และสื่อมวลชน ซึ่งจะน าไปสูํการก าหนดนโยบายที่เหมาะสมในแตํละพื้นที่


                   คู่ขัดแย้งหลักและจุดยืน:
                          1. ชาวบ๎านช๎างทูนต๎องการให๎หนํวยงานรัฐไลํช๎างออกจากพื้นที่และชดเชยคําเสียหาย
                          2. กรมอุทยานแหํงชาติ สัตว๑ปุา และพันธุ๑พืชต๎องการดูแลช๎างปุาเพื่อธรรมชาติสิ่งแวดล๎อม


                   ผู้เกี่ยวข้องอื่น:
                          1. ผู๎วําราชการจังหวัดตราด  2.  องค๑การบริหารสํวนต าบล (อบต.) ช๎างทูน  3. นายอ าเภอ
                   เมืองตราด 4.    สมาชิกสภาผู๎แทนราษฎร 5. สื่อมวลชน 6. อุทยานแหํงชาติน้ าตกคลองแก๎ว

                   7.ส านักงานปุาไม๎ภาค 2 8.ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย 9.ผู๎อ านวยการ สกว. 10.ผู๎อ านวยการ
                   ฝุายวิจัยเพื่อท๎องถิ่น สกว. 11.นักวิจัยชาวบ๎าน 11.นักวิชาการ

                   ระยะเวลา: พ.ศ.2549 – 2559


                   สถานะ: อยูํระหวํางการด าเนินการแก๎ไข


                                                           100
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112