Page 70 - kpi19911
P. 70
70
6.จังหวัดอ านาจเจริญ
ประเด็นที่ 4 กรณีความขัดแย้งระหว่างเกษตรผู้ที่ใช้สารเคมี(สารพาราควอต)กับผู้ที่ไม่ใช้
สารเคมีเพื่อการเพาะปลูกในจังหวัดอ านาจเจริญ
พื้นที่ อ าเภอเมือง จังหวัดอ านาจเจริญ
ประเภทความขัดแย้ง ด้านสิ่งแวดล้อม(การจัดการสิ่งแวดล้อม)
ระดับการรับรู้ของสังคม ประเด็นความขัดแย้งรับรู้ในระดับท้องถิ่นในจังหวัดยโสธร
ประเด็นขัดแย้ง ประชาชนเกษตรกรในพื้นที่ใช้สารเคมีส่งผลกระทบกับเกษตรกรกลุ่มที่ไม่ใช้สารเคมี
จึงเกิดความขัดแย้งระหว่างเกษตรสองกลุ่มในจังหวัดอ านาจเจริญ
ความเป็นมา เกิดเหตุความขัดแย้งของชาวบ้านกลุ่มเกษตรกรได้อันตรายจากการสัมผัสน้ า
ในพื้นที่ที่มีการฉีดพ่นสารเคมีก าจัดศัตรูพืช(สารพาราควอต )และเกิดความวาดกลัวใน
ผลของสารเคมีที่มีความอันตรายขั้นสูงระหว่างเกษตรผู้ใช้สารเคมีและเกษตรกรผู้ไม่ใช้
สารเคมีในพื้นที่อ าเภอเมืองจังหวัดอ านาจเจริญในการสนับสนุนการสร้างโรงงานเพื่อ
รองรับการปลูกพืชเชิงเดี่ยว อาทิ อ้อยและมันส าปะหลัง
โดยกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้สารเคมี ต้องการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งต้องเพาะปลูกใน
ที่ดินแปลงใหญ่ ท าให้การก าจัดวัชพืชด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การใช้สารเคมี อาทิ การใช้รถ
ไถ มีต้นทุนสูง จึงท าให้ต้องมีการใช้สารเคมี แต่ถ้าเพาะปลูกในพื้นที่ 5-10 ไร่ เกษตกร
มีวิธีก าจัดวัชพืชอยู่แล้ว การปลูกอ้อยเพื่อป้อนโรงงานน้ าตาลไม่สามารถใช้วิธีแบบ
เกษตรอินทรีย์ได้ วิธีการเพาะปลูกเริ่มจากการใส่ปุ๋ยและใส่ยาลงไปในดิน และมีการ
ฉีดยาเคมีก าจัดวัชพืชเวลากลางคืน เนื่องจากกลัวผู้พบเห็นหากท าในเวลากลางวัน แป
รากฎข้อเท็จจริงคือ เกษตรไร่อ้อยต้องใช้สารเคมีเพื่อให้ได้ผลผลิตตามที่ตกลงไว้กับ
โรงงาน เพราะถ้าได้ไม่ครบจะถูกปรับ ประกอบกับจังหวัดอ านาจเจริญมีพื้นที่ท า
การเกษตร 4 แสนกว่าไร่ โรงงานน้ าตาลที่จะมาสร้างใหม่ต้องการพื้นที่ปลูกอ้อย 2
แสน 4 หมื่นไร่ แต่ปีนี้จังหวัดอ านาจเจริญต้องการท าเกษตรอินทรีย์ 1 แสน 2 หมื่นไร่
ส่วนปี 2564 ต้องการพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1 แสน 6 หมื่นไร่
ด้านกลุ่มเกษตรกรผู้ไม่ใช้สารเคมี จึงเรียกร้องต่อผู้น าชุมชนแจ้งต่อกลุ่มผู้ใช้
สารเคมีฉีดพ่นเพื่อให้เลิกใช้สารเคมีการการเพาะปลูกในขังหวัดอ านาจเจริญ เนื่องจาก
ได้รับผลกระทบในพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นอันตรายอย่างมาก กลุ่มชาวบ้านที่ไม่