Page 137 - kpi19911
P. 137

137


                                      คุณภาพดี และมีที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท าการเกษตรอยู่ใกล้พื้นที่ตั้งโครงการ

                                      โรงงานผลิตน้ าตาลทรายขนาด 12,500 ตันอ้อยต่อวัน และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด
                                      48 เมกะวัตต์ ในต าบลอุ่มจาน อ าเภอกุสุมาลย์  จังหวัดสกลนคร ของบริษัท ไทย
                                      รุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ ากัด (สาขาสกลนคร) เดินทางไปยังศาลปกครองอุดรธานี เพื่อ
                                      ยื่นฟ้อง  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, รองอธิบดีกรมโรงงานฯ, ส านักงาน

                                      อุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร และคณะกรรมการผู้ช านาญการพิจารณารายงาน EIA
                                      (คชก.) ด้านอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภค ฯ เพื่อขอให้ศาลปกครองอุดรธานีมีค า
                                      พิพากษาเพิกถอน สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งต่อชาวบ้านในสิ่งต่อไปนี้
                                                1.ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตน้ าตาลทรายของบริษัท ไทย

                                      รุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ ากัด (สาขาสกลนคร)
                                                2.มติของ คชก. ครั้งที่ 37/2560  เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ให้ความ
                                      เห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการโรงงานผลิต
                                      น้ าตาลทรายของบริษัทไทยรุ่งเรืองฯ

                                                3.ระเบียบกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของ
                                      ประชาชนฯ 2555 ข้อ 7 ที่ยกเว้นให้กรมโรงงานฯและอุตสาหกรรมจังหวัดไม่ต้องจัด
                                      รับฟังความคิดเห็นของประชาชนประกอบการพิจารณาอนุญาตโครงการที่ได้รับ

                                      ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว
                                                    ด้วยเหตุผลเนื่องจากหากเกิดโครงการโรงงานน้ าตาลและโรงไฟฟ้าชีว
                                      มวลขึ้นแล้วจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้
                                      ฟ้องคดีและชุมชน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบ
                                      นิเวศอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ เช่น การเปลี่ยนสภาพพื้นที่เกษตรธรรมชาติ ป่า

                                      เศรษฐกิจครอบครัว เป็นโรงงานและไร่อ้อย ความเสียหายพังทลายของล าน้ า
                                      สาธารณะฯ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้และยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง ขัดต่อ
                                      ยุทธศาสตร์จังหวัดต้นแบบเมืองสมุนไพร จังหวัดสกลนคร โดยชุมชนยืนยันจะ

                                      ด าเนินคดีนี้จนถึงที่สุดเพื่อยืนยันสิทธิชุมชนของคนสกลนคร และจะยื่นค าร้องขอให้
                                      ศาลปกครองมีค าสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการด าเนินการก่อสร้างหรือ
                                      ด าเนินการใด ๆ ของโรงงานน้ าตาลของบริษัท ไทยรุ่งเรืองฯ ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมี
                                      ค าพิพากษา พร้อมกับการยื่นค าฟ้องด้วย (โดยมีทนายความจากมูลนิธินิติธรรม

                                      สิ่งแวดล้อม) ให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนในการใช้สิทธิยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
                                      ครั้งนี้
               คู่ขัดแย้งหลักและจุดยืน  ชาวบ้านกลุ่มรักษ์น้ าอูน ต าบลอุ่มจาน จุดยืนคือ ขอให้ศาลปกครองอุดรธานีมีค า
                                      พิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตน้ าตาลและรายงานการ

                                      วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการโรงงานผลิตน้ าตาลทรายของบริษัท
                                      ไทยรุ่งเรืองฯ
                                      บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ ากัด (สาขาสกลนคร)จุดยืนคือ  ด าเนินกิจการ
                                      ตามที่ยื่นขออนุญาตและให้เป็นไปตามมติของ คชก. ครั้งที่ 37/2560  เมื่อวันที่ 1

                                      พฤศจิกายน 2560 ที่ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
                                      (EIA) โครงการโรงงานผลิตน้ าตาลทรายของบริษัทไทยรุ่งเรืองฯแล้ว
               ผู้เกี่ยวข้องอื่น      1.ชาวบ้านต าบลอุ่มจาน อ าเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร

                                      2.คณะกรรมการผู้ช านาญการพิจารณารายงาน EIA (คชก.)ด้านอุตสาหกรรมและ
                                      สาธารณูปโภค ฯ
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142