Page 43 - kpi19909
P. 43
37
ให้รัฐบาลรับไปพิจารณาดังนี้ 1. ขอให้เจ้าหน้าที่ หยุดการจับกุม
ผู้ประกอบการไปก่อน 2. ให้ผ่อนผัน เพื่อส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไปต่อไป
ผู้เกี่ยวข้องอื่น นายกรัฐมนตรี,กระทรวงมหาดไทย,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ระยะเวลา พ.ศ. 2559-ปัจจุบัน
สถานะ 3 กําลังอยู่ระหว่างการแก้ไข
พลวัต หลังจากที่ พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 มีผลใช้บังคับเพื่อให้
เกสต์เฮ้าเข้าสู่ระบบเดียวกันกับโรงแรม โดยเฉพาะเรื่องของอาคารสิ่ง
ปลูกสร้าง ทําให้ผู้ประกอบการเกสต์เฮ้าส์เกือบทั้งหมดซึ่งเป็นชาวบ้าน
ในชุมชนที่เปลี่ยนอาคารและบ้านที่อยู่อาศัยเป็นเกสต์เฮ้าส์ ซึ่งที่ผ่านมา
เสียภาษีโรงเรือนและภาษีสรรพากรมาโดยตลอดได้รับผลกระทบ ส่วน
ใหญ่ไม่สามารถทําได้ เนื่องจากเป็นอาคารเก่า ไม่สามารถขออนุญาต
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารได้ เพราะติด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทํา
ให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขออนุญาตได้ โดยในวันที่ 19 ส.ค. 61 นี้
กฎกระทรวงที่ผ่อนผันให้ไปขอใบอนุญาตจะสิ้นสุดลง จะทําให้เกสต์
เฮ้าส์หลายแห่งผิดกฎหมายอย่างเต็มตัว สถานการณ์ดังกล่าวทําให้
ผู้ประกอบการเกสต์เฮ้าส์รวมตัวกันประท้วงหลักเกณฑ์ตาม
พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 เบื้องต้นได้มีการร่วมกันลงรายชื่อ
และรวบรวมเงินกันเพื่อจ้างทีมทนายความ ในการดําเนินการยื่นคําร้อง
ต่อองค์กรภาครัฐที่มีส่วนรับผิดชอบ รวมไปถึงศาลปกครอง เพื่อเสนอให้
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันปรึกษาหาแนวทางการแก้ปัญหาที่จะทําให้
เกิดประโยชน์ทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือผ่อนผัน
หลักเกณฑ์ โดยยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อไป
ยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกันก็ส่งเรื่องไปยังสภาทนายความ เพื่อหาแนวทางด้าน
กฎหมายเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
ระดับความรุนแรง 2 มีความเสียหายทั้งต่ออิสรภาพทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจาก
ผู้ประกอบการเกสต์เฮ้าส์บางรายถูกจับดําเนินคดีตามพระราชบัญญัติ
โรงแรม พ.ศ. 2547