Page 87 - kpi19903
P. 87
60
4.3.1 ค่านิยมด้านการประสานงานและการปฏิบัติหน้าที่
ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนโดยมีพรรคการเมืองที่เลือกในระบบแบ่งเขตเป็นตัวแปรต้นพบว่า
ค่าเฉลี่ยค่านิยมด้านการประสานงานและการปฏิบัติหน้าที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดย
พบว่า คะแนนเฉลี่ยค่านิยมด้านการประสานงานและการปฏิบัติหน้าที่ของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมีค่า
สูงกว่า (M=0.19, SD=0.83) ประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ (M=-0.04, SD=0.95) และสูงกว่าประชาชน
ที่เลือกพรรคอื่น ๆ (M=-0.12, SD=1.08) อย่างมาก
ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนโดยมีพรรคการเมืองที่เลือกในระบบบัญชีรายชื่อเป็นตัวแปรต้นพบว่า
ค่าเฉลี่ยค่านิยมด้านการประสานงานและการปฏิบัติหน้าที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดย
พบว่า คะแนนเฉลี่ยค่านิยมด้านการประสานงานและการปฏิบัติหน้าที่ของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมีค่า
สูงกว่า (M=0.19, SD=0.83) ประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ (M=-0.05, SD=0.98) และสูงกว่าประชาชน
ที่เลือกพรรคอื่น ๆ (M=-0.11, SD=1.06) อย่างมากเช่นกัน
4.3.2 ค่านิยมด้านระบบอุปถัมภ์และเล่นพรรคพวก
ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนโดยมีพรรคการเมืองที่เลือกในระบบแบ่งเขตเป็นตัวแปรต้นพบว่า
ค่าเฉลี่ยค่านิยมด้านระบบอุปถัมภ์และเล่นพรรคพวกมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยพบว่า
คะแนนเฉลี่ยค่านิยมด้านระบบอุปถัมภ์และเล่นพรรคพวกของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ (M=-0.02,
SD=0.90) และพรรคเพื่อไทย (M=-0.04, SD=0.87) ไม่แตกต่างกันมากนัก และสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรค
อื่น ๆ (M=-0.10, SD=0.95)
ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนโดยมีพรรคการเมืองที่เลือกในระบบบัญชีรายชื่อเป็นตัวแปรต้นพบว่า
ค่าเฉลี่ยค่านิยมด้านระบบอุปถัมภ์และเล่นพรรคพวกมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยพบว่า
คะแนนเฉลี่ยค่านิยมด้านระบบอุปถัมภ์และเล่นพรรคพวกของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ (M=-0.01,
SD=0.89) และพรรคเพื่อไทย (M=-0.02, SD=0.88) ไม่แตกต่างกันมากนัก และสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรค
อื่น ๆ (M=-0.15, SD=0.96)
4 . 4 ศรัทธำในพรรคกับพฤติกรรมกำรเลือกตั้ง
การศึกษาเกี่ยวกับศรัทธาในพรรคการเมืองกับพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน เป็นการศึกษา
ความแตกต่างของศรัทธาในพรรคการเมืองของประชาชนว่าประชาชนว่ามีพฤติกรรมในการเลือกผู้สมัครจาก
พรรคใดมากหรือน้อยกว่ากันเพราะมีความศรัทธาในพรรคการเมืองที่แตกต่างกันหรือไม่ ในการศึกษานี้จะ
พิจารณาศรัทธาในพรรคการเมืองเพียงสองพรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ในขณะเดียวกัน
จะศึกษาพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกฯ ในปี พ.ศ. 2554 จ านวน 3 กลุ่มพรรคการเมือง คือ พรรค
ประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และกลุ่มพรรคอื่น ๆ และตัวแปรที่วัดศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมือง
ทั้งสอง เป็นตัวแปรในมาตรวัดเชิงอันดับมีค่าตั้งแต่ 1 ถึง 4 คือ ไม่เชื่อมั่นเลย ไม่ค่อยเชื่อมั่น ค่อนข้างเชื่อมั่น
เชื่อมั่นมาก