Page 84 - kpi19903
P. 84
57
รูปที่ 4.4 เปรียบเทียบคะแนนปัจจัยในการเลือกพรรคการเมืองกับพฤติกรรมการเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ
4.3 ค่ำนิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส. กับพฤติกรรมกำรเลือกตั้ง
ค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส. มีจ านวน 12 ข้อค าถามและให้ผู้ตอบตอบว่าไม่ส าคัญเลย (1) จนถึง
ส าคัญอย่างยิ่ง (5) แสดงใน
ตารางที่ 4.7 และผลการส ารวจพบว่าค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส. มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 5 อันดับคือ
1) ประสานงานกับหน่วยงานราชการในจังหวัดเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ 2) ประสานงานกับองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ 3) ท าหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เมื่อมีเรื่องร้องเรียน 4)
จัดเวทีประชาคมชาวบ้าน เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน และ 5) มีส านักงาน ส.ส. เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน
สถิติเชิงบรรยายและสหสัมพันธ์ระหว่างค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส. แสดงในตารางที่ 4.7
เนื่องจากมีจ านวนข้อค าถามมากและมีค่าสหสัมพันธ์กันเองค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับหัวข้อก่อนหน้า ดังนั้นจึง
อาศัยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงบุกเบิกของปัจจัยในการเลือกพรรคการเมืองของคนไทยสกัดองค์ประกอบ
ด้วยระเบียบวิธี Principal Axes Factoring โดยการหมุนแกนแบบ Varimax เพื่อพิจารณาจ านวน
องค์ประกอบที่ส าคัญของปัจจัยทั้งหมด ซึ่งการศึกษาในหัวข้อนี้เป็นการน าค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส.
มาวิเคราะห์ และการวิเคราะห์จะช่วยจัดกลุ่มปัจจัยดังกล่าวให้เราสามารถตีความและเข้าใจบริบท คุณลักษณะ
ของปัจจัยต่าง ๆ ได้ชัดเจนและง่ายมากขึ้น จากปัจจัยที่เกี่ยวข้องจ านวนจ านวนมากจะถูกลดให้เหลือ 2 กลุ่ม
ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวแสดงในตารางที่ 4.8
องค์ประกอบที่หนึ่ง คือ กำรประสำนงำนและกำรปฏิบัติหน้ำที่ ประกอบไปด้วยปัจจัยทั้งหมด 8
ปัจจัย ดังต่อไปนี้ 1) ประสานงานกับหน่วยงานราชการในจังหวัดเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ 2) ประสานงาน
กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ 3) ท าหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เมื่อมี
เรื่องร้องเรียน 4) มีส านักงาน ส.ส. เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน 5) จัดเวทีประชาคมชาวบ้าน เพื่อรับฟังปัญหา
ชาวบ้าน 6) เข้าประชุมสภาฯ สม่ าเสมอ 7) สนับสนุนงานสาธารณะ เช่น บริจาคเงิน เป็นประธาน/ที่ปรึกษา