Page 23 - kpi19845
P. 23

บทที่ 3

                        อัตลักษณ์และคุณลักษณะบทบาทของสตรีในการลดความขัดแย้งในมิติต่าง ๆ

                                                 ในภาพรวมของประเทศ



                       เนื่องจากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบผสมผสาน ( Mix –Method) ที่น าข้อมูลเชิง
               ปริมาณจากแบบสอบถามผู้หญิงและผู้ชายที่มีส่วนร่วมในการลดความขัดแย้งในมิติต่างๆ ทั่วประเทศผสมผสาน

               กับข้อมูลเชิงคุณภาพที่สัมภาษณ์และfocus group เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้องแม่นย าและในบทนี้เป็นการ
               น าเสนอข้อมูลในส่วนที่เป็นเชิงปริมาณและคุณภาพเพื่อค้นหาประเด็นร่วมที่ผู้หญิงเข้าไปมมีส่วนร่วมในการ

               แก้ไขความขัดแย้งในมิติตต่าง ๆ ในภาพรวมของประเทศ


                       จากการศึกษาศึกษาเชิงปริมาณ วิจัยพบว่าบทบาทของผู้หญิงที่เข้าไปมีส่วนร่วมและการบริหารจัดการ

               ความขัดแย้งทั่วประเทศพบว่า บทบาทของผู้หญิงกับการจัดการความขัดแย้งในประเทศไทย จ านวน 1,000 ชุด

               โดย แบ่งออกเป็นสี่ภาค (กลาง เหนือ อีสาน ใต้) ภาคละ 250 ชุด ใช้การวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสถิติ SPSS เพื่อ
               หาความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม และท าการแปลผลค่าเฉลี่ยเป็น 5 ระดับ

               ความคิดเห็น ตามทฤษฏีของ Likert Scale: 1961


                       โดยจะน าเสนอผลการวิเคราะห์ที่ส าคัญ 4 หัวข้อได้แก่ ข้อที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบ

               แบบสอบถาม ข้อที่ 2 ภาพรวมของบทบาทของผู้หญิงกับการจัดการความขัดแย้งในประเทศไทย ข้อที่ 3
               บทบาทของผู้หญิงกับการจัดการความขัดแย้งในประเทศไทยจ าแนกหลายภาค และข้อที่ 4 บทสรุปของค าถาม

               ปลายเปิด

                         จากข้อมูลในแบบสอบถาม พบว่า เพศ ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
               โดยเพศหญิงมีจ านวนทั้งสิ้น 899 คน คิดเป็นร้อยละ 91.2  ส่วนเพศชายมีจ านวนทั้งหมด 84 คน คิดเป็นร้อย

               ละ 2.9 นอกไปนี้ ยังมีผู้ตอบแบบว่าเป็น เพศอื่นๆอีก 3 คน คิดเป็นร้อยละ 0.3 ในด้าน อายุ ของผู้ตอบ
               แบบสอบถามนั้น พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 45-54 ปี ซึ่งมีจ านวนถึง 270 คน คิดเป็น

               ร้อยละ 27.2 รองลงมาคือ 36 - 44 ปี มีจ านวน 224 คน คิดเป็นร้อยละ 22.6 ส่วนอายุที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม
               น้อยที่สุด คือ 75 - 85 ปี มีจ านวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 1.3 ในด้านระดับการศึกษา พบว่าผู้ตอบแบบสอบ

               ส่วนใหญ่ มีการศึกษาอยู่ในปริญญาตรี จ านวน 421 คน คิดเป็นร้อยละ 42.4 รองลงมาคือ ระดับมัธยมปลาย

               ซึ่งมีถึง 164 คน คิดเป็นร้อยละ 16.5 และอับดับที่มีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคือ ระดับอื่นๆ เช่น อนุปริญญา
               มศ.5 มีเพียง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 1.2  ในเรื่องอาชีพ ของผู้ตอบแบบสอบนั้น พบว่า ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ

               อิสระของตนเอง มีจ านวนสูงสุด คือ 342 คิดเป็นร้อยละ 35.8 รองลงมาคือ ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ มี

               จ านวนถึง 258 คน คิดเป็นร้อยละ 27.0 และอาชีพที่มีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคือ องค์กรอิสระมีเพียง
               31 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2

                     ส่วนเรื่อง การเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ นั้นพบว่าผู้ตอบแบบสอบส่วนใหญ่การเข้าเป็นสมาชิกของ
               กลุ่มช่วยเหลือสังคม มีจ านวนถึง 438 คน คิดเป็นร้อยละ 48.8 รองลงมาคือ กลุ่มอื่นๆ เช่นท่องเที่ยว


                                                                                                       23
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28