Page 21 - kpi19845
P. 21

2. เป็นผู้ต่อสู้ที่แข็งขัน บางครั้งผู้หญิงจะมีส่วนในกองก าลังต่อสู้ ผู้หญิงจะถือว่าเป็นผู้ตาม

               เหล่าผู้ต่อสู้ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือแต่ก็ไม่ได้เป็นผู้ถืออาวุธ เป็นเสมือนเกราะป้องกันของผู้ต่อสู้  หรือ
               กระทั่งเป็นผู้ต่อสู้ที่แข็งขัน  ผู้หญิงอาจแสดงบทบาทอื่นในการสนับสนุนไปพร้อมๆกับการต่อสู้ เช่น การ

               ท าอาหาร ดูแลรักษาความสะอาด คนแบกของ ผู้รักษาความปลอดภัย หรือแม้แต่การเป็นคู่นอน ตัวอย่างที่

               ปรากฏให้เห็น เช่น กรณีความขัดแย้งในอิริเทรีย โมซัมบิค ซิมบับเว เวียดนาม กัมพูชา ศรีลังกา เนปาล เซียร์
               ราลีโอน ไลบีเรีย อูกันดาและรวันดา


                                  3. กลายเป็นเหยื่อจากสงคราม ซึ่งต้องการการให้ความช่วยเหลือในเรื่องสุขภาพ

               นอกจากนั้น คือเรื่องของอาหารและที่พัก รวมไปถึงความต้องการในเรื่องอาชีพและรายได้ โดยเฉพาะหญิง

               หม้ายที่แต่เดิมไม่สามารถเลี้ยงดูและมีรายได้เองในบางสังคมที่วัฒนธรรมเป็นข้อจ ากัดส าหรับผู้หญิงในการ
               ท างาน เช่นในประเทศอัฟกานิสถาน ในขณะเดียวกันด้วยการศึกษาที่ต่ า รวมถึงภาระในการดูแลลูก ท าให้

               ผู้หญิงมักจะไม่ได้มีต าแหน่งหน้าที่ทางการงานที่มั่นคง


                                  4. กลายเป็นผู้ที่ทีภาระรับผิดชอบและจ าต้องพัฒนาตนเอง เช่น เมื่อความรับผิดชอบทั้ง

               ด้านเศรษฐกิจและสังคมของผู้หญิงเพิ่มขึ้น ผู้หญิงก็มักจะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเพื่อเสริมสร้างอาชีพของตัวเอง
               ในแง่นี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเองของผู้หญิงและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงการแบ่ง

               งานบนฐานของเพศในระยะยาว


                                  5.  เกิดการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายผู้หญิง ในหลายประเทศผู้หญิงที่ขับเคลื่อนโดยปัจเจก

               อาจไม่มีผลมากพอต่อการเปลี่ยนแปลง เครือข่ายผู้หญิงอาจเริ่มจากกลุ่มผู้หญิงเล็กๆไม่กี่คนที่รวมตัวกัน
               บางครั้งเป้าหมายเดียวอาจเป็นความพยายามในการหนทางที่ดีขึ้นเพื่อมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง แต่เวลา

               ผ่านไปอาจกลับกลายเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลจริงต่อกระบวนการสันติภาพ เครือข่ายอาจมีการขยายไป

               นอกเหนือจากขอบเขตด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยมากแล้วผู้น ามักจะเกิดจากเครือข่ายและจะกลายเป็น
               ต้นแบบส าหรับผู้หญิงคนอื่นต่อไป องค์กรด้านผู้หญิงสามารถมีได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่องค์กรพัฒนาเอกชน

               ท้องถิ่นจนถึงกลุ่มทางศาสนาหรือกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มชาวนาผู้หญิง กลุ่มองค์กรเหล่านี้จะคอยช่วยเหลือ

               ผู้หญิงในรูปแบบต่างๆ เช่น การดูแลเด็ก การอบรมทักษะ การเรียนการสอนและการอ่านเขียน และกิจกรรมที่
               เสริมสร้างรายได้ เป็นต้น เครือข่ายลักษณะนี้เป็นวิธีการที่ส าคัญในการค้นหาผลประโยชน์และความต้องการ

               ของผู้หญิง และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นได้


                       โดยเฉพาะบทาทของผู้หญิงท่ามกลางสภาวะความขัดแย้งของประเทศไทยที่ผู้วิจัยได้เข้าไปค้นหา

               ค าตอบ พบว่าใน 5 บทบาทส าคัญของผู้หญิงในประเทศไทยท่ามกลางความขัดแย้ง มี ครบ ทุก 5 บทบาท
               เพราะผู้หญิงในประเทศไทยมีความพยายามที่จะลดความขัดแย้งรุนแรงทั้งทางกายภาพในสถานการณ์ความ

               รุนแรงเช่นในเหตุการณืความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ กลุ่มผู้หญิงที่พยามลดช่องว่างทางความรุนแรงเชิง
               โครงสร้าง เช่น ความพยายามลดความเหลื่อมล้ าด้านรายได้ ลดความเลหื่อมล้ าทางการเมือง เช่น กลุ่ม WE




                                                                                                       21
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26