Page 248 - kpi15860
P. 248
2 6 2 7
พื้นที่ได้มากกว่าหน่วยงานภายนอก และสามารถช่วยเหลือการปฏิบัติงานของฝ่ายความมั่นคงที่มี เฝ้าระวัง การแจ้งเหตุ แจ้งเตือนทั้งในภาวะปกติ และเกิดเหตุร่วมกับศูนย์วิทยุหน่วยเฉพาะกิจ
อยู่ไม่เพียงพอในการดูแลรักษาความปลอดภัยท้องถิ่นของตนเองให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืน ปัตตานี ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี และศูนย์วิทยุภาคประชาชน (ตาสับปะรด)
มากกว่า ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2552 เทศบาลจึงร่วมกับฝ่ายตำรวจ และทหาร จัดทำโครงการ ความโดดเด่นของโครงการอาสาสมัครพิทักษ์เมือง (อส.พม.) คือ การทำงานด้วยจิตอาสา
ตาสับปะรดขึ้นโดยรวบรวมผู้ประกอบการร้านค้า นักธุรกิจ ตัวแทนสมาคม มูลนิธิ ชมรมต่างๆ ของชุมชนที่ต้องการปกป้องชุมชนในพื้นที่จากเหตุการณ์ความรุนแรง กล่าวได้ว่าเป็นเกราะป้องกัน
ในเขตเมืองมาเป็นสมาชิกตาสับปะรดเพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือเทศบาลและภาครัฐในการเฝ้าระวัง ภัยที่มาจากฐานสำนึกสาธารณะ โดยสมาชิกที่เข้าร่วมมีความเข้มแข็งในการปฏิบัติงานโดยมิได้มี
เป็นหูเป็นตาดูแลพื้นที่ชุมชน ร้านค้า สถานประกอบการต่างๆ โดยใช้วิทยุภาคประชาชนที่ภาครัฐ
และองค์กรภาคเอกชนสนับสนุนให้ในการรายงานสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงอันตรายต่อ การรับค่าตอบแทนแต่อย่างใด โครงการนี้ประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นใน
ประสิทธิภาพของการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นจากสมาชิกด้วยกันเอง
ความไม่สงบในพื้นที่
เกิดเป็นความอุ่นใจ ที่สำคัญสามารถป้องปรามมิให้ก่อเหตุภายในเขตเทศบาลได้โดยง่าย เห็นได้
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2555 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จากกรณีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเพลิงในร้านค้าย่านเศรษฐกิจทั่วเขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่เป็น
ได้เห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของพลังภาคประชาชนที่ทำหน้าที่เป็นกำลังเสริมช่วยเหลือ ข่าวดัง ซึ่ง อส.พม. สามารถแจ้งเตือน ช่วยเหลือ ร้านค้า ประชาชน ทราบล่วงหน้า จนในที่สุด
เจ้าหน้าที่หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถสร้างให้ประชาชนในพื้นที่มีความเชื่อมั่นจึงได้ สามารถป้องกันเหตุการณ์ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาลสูญเสีย
สนับสนุนงบประมาณโดยใช้ชื่อโครงการว่า “ยามท้องถิ่น” โดยให้เทศบาลเมืองปัตตานีเป็นผู้จัดสรร น้อยลง ทำให้ผู้ที่จะก่อเหตุกระทำการก่อเหตุยากขึ้น เหตุการณ์จึงลดน้อยลง
และเป็นหน่วยงานหลักในการคัดเลือกประชาชนที่มีใจอาสาเข้ามาร่วมโครงการ และต่อมาได้มีการ นอกจากนี้ สมาชิก อส.พม.มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาปกป้อง
เปลี่ยนชื่อเป็น “อาสาสมัครพิทักษ์เมือง” เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ปฏิบัติ โดยมีวัตถุประสงค์ บ้านเกิดให้เกิดสันติสุข รวมทั้งภาคประชาสังคม เช่น สภาอุตสาหกรรม หอการค้า สมาคม มูลนิธิ
เพื่อให้ อาสาสมัครพิทักษ์เมือง (อส.พม.) มีหน้าที่ช่วยเหลือการปฏิบัติของฝ่ายทหาร ตำรวจ คอย และชมรมต่างๆ ให้ความไว้วางใจเทศบาลที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น
สอดส่องเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของบุคคล วัตถุ และยานพาหนะ ที่ต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุ และ ในพื้นที่ จึงเห็นถึงความสำคัญและเข้ามาสนับสนุนบริจาคเงินให้เทศบาลเพื่อจัดซื้อวิทยุสื่อสาร เพื่อ
รายงานให้ฝ่ายความมั่นคงทราบ
ให้กลุ่มพลังภาคประชาชนใช้ประสานและรายงานเหตุการณ์เข้าศูนย์วิทยุสื่อสาร ซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ใน
วิธีการดำเนินโครงการอาสาสมัครพิทักษ์เมือง (อส.พม.) จะคัดเลือก อส.พม. จากกลุ่ม การปฏิบัติงานด้านการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการตั้งจุดสกัด ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง
พลังภาคประชาชนที่มีจิตอาสา เสียสละเวลา เคยเป็นสมาชิกของ อปพร.มาช่วยเหลือเป็นกำลัง ตามแผนพิทักษ์เมือง เป็นต้น ดังนั้นโครงการนี้สามารถตอบโจทย์เรื่องการเสริมสร้างสันติสุขและ
สำคัญ โดยมีการวางแผนบูรณาการการปฏิบัติงานกำหนดพื้นที่ปฏิบัติแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ ความสมานฉันท์ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้รับการยอมรับถึงศักยภาพของอาสาสมัครซึ่งเป็น
โซนเทศวิวัฒน์ โซนพิพิธ โซนมะกรูด และโซนสามัคคี แต่ละโซนมีกองกำลังปฏิบัติงาน 3 ฝ่าย ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัย ร่วมคิด ร่วมทำ
ในการกำกับควบคุม การสั่งการ ติดตามตรวจสอบการปฏิบัติ ตลอดจนมีการประสานงานที่ชัดเจน ช่วยเสนอแนะตัดสินใจ และร่วมรักษาพิทักษ์เมืองของตนเองให้มีความปลอดภัยในชีวิตและ
ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงได้มีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ อส.พม.ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทรัพย์สิน ซึ่งช่วยให้เกิดความสงบในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน
ยุทธศาสตร์การทำงาน การแบ่งโซนพื้นที่รับผิดชอบ เทคนิคการสังเกตบุคคล ยานพาหนะ วัตถุ โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
ต้องสงสัย การแจ้งเหตุการณ์ความไม่สงบ การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอื่นๆ เช่น การบรรเทา
สาธารณภัย การจราจร รวมทั้งการอบรมการใช้อาวุธปืน เป็นต้น โดยจะจัดเวรสับเปลี่ยน เหตุการณ์ความรุนแรงและสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ของเทศบาลเมือง
หมุนเวียนกำลังตามความเหมาะสม โดยใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสาร และประสานการปฏิบัติในการ ปัตตานีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เช่น การลอบวางเพลิง
รางวัลพระปกเกล้า’ 57 รางวัลพระปกเกล้า’ 57