Page 3 - kpiebook67003
P. 3
คำำ�นำำ��นำำ�
คำำ
สถ�บัันำพระปกเกล้้�
หลักกฎหมำยแพ่งโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งหลักกฎหมำยที่เกี่ยวกับ
กำรท�ำสัญญำระหว่ำงเอกชนด้วยกันมีวิวัฒนำกำรมำยำวนำนกว่ำสองพันปี
ตั้งแต่สมัยโรมัน ซ่่งถือเป็นหลักว่ำ “คู่สัญญำมีควำมเสมอภำคกัน”
กล่ำวอีกนัยหน่่งก็คือ คู่สัญญำทั้งสองฝ่่ำยมีอิสระและมีควำมเสมอภำค
เท่ำเทียมกันในกำรเลือกท�ำสัญญำหรือก�ำหนดข้อตกลงในสัญญำและ
หลักกำรดังกล่ำวนี้ ก็ยังคงได้รับกำรย่ดถืออยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้
รัฐจ่งต้องหลีกเลี่ยงกำรเข้ำไปแทรกแซงกำรตกลงกันของเอกชน
อย่ำงไรก็ตำม ควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจได้ท�ำให้เห็นว่ำในหลำยกรณีี
คู่สัญญำอำจจะไม่ได้อยู่ในสถำนะเท่ำเทียมกันเสมอไป โดยอำจเกิดจำก
ควำมไม่เท่ำเทียมกันทำงเศรษฐกิจที่ท�ำให้คู่สัญญำอีกฝ่่ำยหน่่งยอม
ท�ำสัญญำที่ตนเองจะเสียเปรียบเพรำะไม่มีทำงเลือก ส่งผลให้ปัจจุบัน
หลำยประเทศได้ออกกฎหมำยมำก�ำหนดให้รัฐสำมำรถเข้ำแทรกแซง
กำรท�ำสัญญำของเอกชนได้ในบำงเงื่อนไขเพื่อให้ไม่เกิดกำรเสียเปรียบกัน
มำกจนเกินไป หรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็มีกำรบังคับใช้พระรำชบัญญัติ
ข้อสัญญำไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 แต่ก็ยังเกิดปัญหำในกำรบังคับใช้
III