Page 336 - kpiebook65057

ที่นำโดยรัฐ (Government Led Politics) คือ เป็นลักษณะของการเมืองแบบบนลงล่าง
การให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคมเป็นหลัก มีความเป็น
ประชาธิปไตยอยู่ในเกณฑ์์ต่ำ สำหรับอนาคตที่พึงปรารถนา คือ อยากเห็นการเมืองที่

พลเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนการเมือง กล่าวคือ เป็นการกระจายอำนาจสู่ชุมชน
ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำนโยบาย มีการส่งเสริมหลักประชาธิปไตย

แบบประชาเสวนาหาทางออก (Deliberative Democracy) และให้สังคมเป็นตัวนำ
การเมืองมากขึ้น (society led politics)

ในระยะใกล้ (1-10 ปี) ปัจจัยขับเคลื่อนให้เกิดพลเมืองประเภทต่างๆ ได้แก่

เทคโนโลยี ประสิทธิภาพทางการเมือง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ โลกาภิวัตน์
นโยบายของรัฐ เช่น การกระจายอำนาจ ความขัดแย้งทางการเมือง โดยพฤติกรรม
ของพลเมืองในอีก 1-10 ปี คือ พลเมืองส่วนใหญ่ มีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

เชื่อข้อมูลในสื่อออนไลน์ เกิดความขัดแย้งระหว่างรุ่น (Generation gap) ทุนนิยม
เข้ามาครอบงำ เกิดลัทธิบริโภคนิยมและวัตถุนิยม ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักใช้ข้อมูล

มากขึ้น ผลที่อาจจะเกิดขึ้น คือ ความเหลื่อมล้ำทางด้านเพศ วัย รายได้ การศึกษา
สังคม พลเมืองส่วนใหญ่สนใจเรื่องปากท้องของตนเป็นหลัก มีส่วนร่วมในการแสดง
ความคิดเห็นเพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณแต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นในเชิงคุณภาพ กล่าวคือ

เป็นการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ที่ไม่นำไปสู่การตัดสินใจร่วมกัน
การจัดทำเป็นนโยบายหรือนำแนวคิด แผนการไปปฏิิบัติให้เกิดขึ้นจริง แนวโน้ม

ดังกล่าวเป็นลักษณะที่มีความใกล้เคียงกับฉากทัศน์การเมืองภาคพลเมืองที่นำ
โดยภาคเอกชน (Private Driven Politics) อนาคตที่พึงปรารถนา คือ พลเมืองเป็น
ตัวขับเคลื่อนการเมือง (Citizen Led Politics) มีการกระจายอำนาจสู่ชุมชน

การมีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบาย มีการใช้ประชาธิปไตยแบบประชาเสวนา
หาทางออก และเป็นภาพที่สังคมเป็นตัวนำการเมือง (society led politics)

ในระยะไกล (11-20 ปี) ปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนได้แก่ เทคโนโลยีล้ำสมัย

ยุทธศาสตร์ชาติ โลกาภิวัตน์ ซึ่งพฤติกรรมของพลเมืองในอนาคตจะมีการใช้ข้อมูล
มากขึ้น เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารทางดิจิทัลมีมากขึ้น โดยเฉพาะ

281