Page 197 - kpiebook65056
P. 197

196          ผู้  นร   รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว                                                                                        197



                        เป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ต่างฝ่ายต่างจะต้องด�าเนินการตามที่ตนเห็น                ศาลโปริสภาให้ประกัน เมื่อคดีไปสู่ศาลอา า ทางศาลอา าไม่ให้ประกันตัว
                        สมควร เพื่อประโยชน์ของชาติ ทั้งนี้ด้วยน�้าใจบริสุทธิ  และด้วย                พระยาเทพหัสดิน จ งถูกขังอยู่ในเรือนจำา ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2477

                        ความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน อันความเห็นในป ญหาการเมืองนั้น                   จนถ งวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2478 เพราะศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายก  อง
                        ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา ทั้ง ๆ ที่มีใจบริสุทธิ  และมีความรู้สึก             ปล่อยตัวพระยาเทพหัสดินออกมา แสดงว่าตอนนั้นการเมืองภายนอกสภาฯ
                        รับผิดชอบด้วยกันทุกฝ่ายด้วย เพราะ ะนั้นถึงแม้ว่าต่างฝ่ายจะมีมติ              ค่อนข้างจะสับสนและต งเครียดพอสมควร แต่เรื่องภายในสภาฯ ไม่ได้มี

                        ต่างกัน แต่เมื่อท�าการปรองดองประสานกันเป็นอันดีแล้ว ในที่สุด                 การประชุมหารือกันในเรื่องนี้ เพราะอยู่ในระหว่างป ดสมัยประชุม
                        ก็ยอมท�าความตกลงกันได้ ในท่ามกลางแห่งประโยชน์ส่วนรวม                                  ส่วนกรณีที่สองเป นเรื่องเกี่ยวกับการครองราชย์ของพระบาท-

                        ของชาติ อย่างเช่นการประสานงานระหว่างส าผู้แทนราษฎรกับ                        สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซ ่งทางรัฐบาลทราบดีตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม เพราะ
                        คณะรั มนตรีเป็นต้น คณะรั มนตรีมีนักการเมืองประกอบอยู่                        ได้รับทราบจากผู้สำาเร็จราชการแทนพระองค์ ตอนนั้นในสภาฯ น่าจะไม่ค่อยมี
                        เช่นเดียวกับส าผู้แทนราษฎร เพราะ ะนั้นจึงพูดเข้าใจกันง่าย                    คนได้รู้มากนัก ยกเว้นคนในรัฐบาลเอง ทางรัฐบาลจ งได้ส่งคณะผู้แทนรัฐบาล

                        ใช้ถ้อยค�าและวิธีพูดอย่างเดียวกัน รู้จักช่างน�้าหนัก เห็นค�าพูด              มีเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ ประธานสภาฯ เป นหัวหน้าคณะ โดยมี หลวง
                        ของกันและกันตามความมุ่งหมายอันแท้จริง จึงไม่มีการเข้าใจผิด                   ธำารงนาวาสวัสดิ  และนายดิเรก ชัยนาม ร่วมเดินทางไปด้วย ตั้งแต่ต้นเดือน

                        อันอาจเป็นเหตุกระทบกระเทือนเกิดขึ้นได้ แต่ส�าหรับคน ายนอก                    พ ศจิกายน พ.ศ. 2477
                        นั้นเป็นอีกป ญหาหนึ่ง ซึ่งถ้าท่านจะอนุญาตให้ข้าพเจ้าพูดแล้ว
                        ข้าพเจ้าใคร่จะกล่าวว่า ถ้อยค�าที่เผยแพร่ออกไปนั้นอาจไม่ครบถ้วน                        ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2477 นายกรัฐมนตรี พระยาพหลฯ

                        บริบูรณ์เสมอไป ทั้งคน ายนอกก็อาจไม่เข้าใจข้อความที่พูดนั้น                   ได้รับแจ้งจากผู้สำาเร็จราชการแทนพระองค์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                        ตรงตามความมุ่งหมายเสมอไปด้วย เพราะ ะนั้นข้าพเจ้าใคร่จะขอ                     ได้มีพระราชหัตถเลขาแจ้งมายังผู้สำาเร็จราชการว่าให้นายกรัฐมนตรีเป นผู้ทำา

                        วิงวอนท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายให้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร                   พิธีเป ดประชุมสภาในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2477 แทน ตามที่มีการบั  ัติ
                        แก่เหตุผล เ พาะอย่างยิ่ง ในค�าพูดที่เกี่ยวด้วยพระมหากษัตริย์                 ไว้ในรัฐธรรมนู  ดังนั้นในวันเป ดประชุมสภาฯ นายกรัฐมนตรี พระยาพหลฯ
                        หรือนานาประเทศ ซึ่งตามแบบนิยมทั่วไป ถือว่าเป็นเรื่องซึ่งจะ                   จ งเป นผู้ทำาพิธีเป ดสภาฯ โดยอ่านกระแสพระราชดำารัสมีความดังนี้    24

                        พึงระมัดระวังเป็นพิเศษ ”
                                                                                                                    “ท่านสมาชิกส าผู้แทนราษฎรทั้งหลาย


                        ระหว่างสภาป ดสมัยประชุมนี้ ก็ได้มีเรื่องสำาคั เกิดข ้น 2 เรื่อง                             วันนี้เป็นวันศุ มงคลดิถีเป ดประชุมส าผู้แทนราษฎรสมัย
                โดยเรื่องแรกเป นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำารวจได้จับกุมตัวพลโท พระยาเทพหัสดิน                       สามัญ พุทธศักราช      โดยที่ข้าพเจ้าไม่สามารถจะมาท�าพิธี
                สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร ผู้ดำารงตำาแหน่งรองประธานสภา                                เป ดประชุมได้เอง จึงได้ให้นายกรั มนตรีท�าพิธีนั้นแทน ตามความ

                คนที่ 2 ด้วย ในข้อหาที่ร้ายแรงมาก คือ ข้อหากบ  ตำารวจได้คุมขังไว้จน                           ในรั ธรรมนูญในราชอาณาจักรสยาม มาตรา
   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202