Page 249 - kpiebook65043
P. 249

สรุปการประชุมวิชาการ
                                                                               สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23  249
                                                                                   ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


               คุณค่าด้านประโยชน์ใช้สอย นโยบายเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

                   แนวคิดการบริโภคเชิงสัญญะอธิบายโดยเริ่มจากการกล่าวถึงการบริโภคพื้นฐานที่เน้น

             ประโยชน์ใช้สอย ซึ่งหมายถึง การเลือกพรรคการเมืองจากการพิจารณานโยบายที่สร้าง
             ประโยชน์แก่ส่วนรวม คุณค่านี้เป็นคุณค่าดั้งเดิมที่พรรคการเมืองต่างก็นำมาใช้กำหนดนโยบาย
             ซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่พรรคการเมืองแรกของประเทศไทยได้ถูกจัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
             ในปี พ.ศ. 2498 ในชื่อพรรคเสรีมนังคศิลา ซึ่งพรรคการเมืองนี้ก็กำหนดนโยบาย

             เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เช่น การส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับนานาชาติ การให้ประชาชนมีเสรีภาพ
             ในการประกอบการกสิกรรมและการพาณิชย์ และการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ
             (ราชกิจจานุเบกษา, 2498)

                   ส่วนในปี พ.ศ. 2564 พรรคการเมืองก็นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม

             เช่นกัน เช่น พรรคภูมิใจไทยนำเสนอแนวคิดว่า ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพและมีอำนาจ
             ในการใช้ทรัพยากรทั้งของส่วนตนและของชาติ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยแนวทางลด
             อำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน และนโยบายกัญชาเสรี (BBC News, 2019 17 January)

             ส่วนพรรคอนาคตใหม่นำเสนอนโยบาย เช่น ยุติระบบราชการแบบรวมศูนย์ ปฏิวัติการศึกษา
             และไทยเท่าเทียม (อนาคตใหม่, 2564)

                   การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองโดยมุ่งเน้นที่ประโยชน์ส่วนรวม จึงกลายเป็นเรื่อง
             พื้นฐานที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ต่างก็นำเสนอ อย่างไรก็ตาม นโยบายในลักษณะดังกล่าวกลับ

             ไม่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้เกิดขึ้นได้ โดยสาเหตุหลักเกิดจากนโยบาย
             ของพรรคการเมืองที่ดูแตกต่างกันนั้นเป็นเพียงความแตกต่างกันในเชิงรูปแบบ แต่ไม่ได้มี
             ความแตกต่างกันในเชิงเนื้อหา ซึ่งหมายถึงการที่นโยบายของพรรคการเมืองส่วนใหญ่ต่างก็
             มุ่งนำเสนอประโยชน์ที่มีต่อส่วนรวมทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ นโยบายในลักษณะอื่นจึงถูกนำเสนอ
             เพื่อให้ได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจากประชาชน


               คุณค่าด้านการแลกเปลี่ยน นโยบายประชานิยม

                   คุณค่าประการถัดมาที่แนวคิดการบริโภคเชิงสัญญะกล่าวถึง คือ คุณค่าด้านการแลกเปลี่ยน
             หรือมูลค่า ซึ่งหมายถึง นโยบายของพรรคการเมืองในเชิงมูลค่าที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์

             โดยตรงในเชิงเศรษฐกิจที่จับต้องได้ แนวคิดนี้เริ่มเป็นที่กล่าวถึงเริ่มตั้งแต่รัฐบาลที่นำโดย
             พรรคไทยรักไทยนำเสนอโครงการต่าง ๆ ไปยังประชาชนกลุ่มฐานรากซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่
             ในประเทศไทย (นันทวุฒิ พิพัฒน์เสรีธรรม, 2551) ตัวอย่างเช่น โครงการพักหนี้เกษตรกร
             รายย่อย โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงการสร้างหลักประกันถ้วนหน้า

             รักษาทุกโรค (ภัทร หวังศิริกุล, 2560)                                                      บทความที่ผ่านการพิจารณา

                   อย่างไรก็ตาม โครงการในลักษณะดังกล่าวของพรรคไทยรักไทยก็ถูกตั้งข้อครหาว่า
             เป็นการกำหนดนโยบายโดยมองประชาชนเป็นดั่งลูกค้าของธุรกิจ และมีการนำการตลาดมาใช้
   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253   254