Page 119 - kpiebook64013
P. 119
77
273
เมื่อไต่สวนเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ทำารายงานเสนอต่อวุฒิสภา โดยในรายงานดังกล่าวต้องระบุให้ชัดเจนว่าข้อกล่าวหา
ตามคำาร้องขอข้อใด มีมูลหรือไม่ เพียงใด มีพยานหลักฐานที่ควรเชื่อได้อย่างไร
พร้อมทั้งระบุข้อยุติว่าจะให้ดำาเนินการ อย่างไรด้วย
ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเห็นว่า
ข้อกล่าวหา ตามคำาร้องขอข้อใดเป็นเรื่องสำาคัญ จะแยกทำารายงานเฉพาะข้อนั้น
ส่งไปให้ประธานวุฒิสภาตามวรรคหนึ่ง เพื่อให้พิจารณาไปก่อนก็ได้
ถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติด้วยคะแนนเสียง
ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ว่าข้อกล่าวหาใดมีมูล
นับแต่วันดังกล่าวผู้ดำารงตำาแหน่งที่ถูกกล่าวหาจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้จนกว่า
วุฒิสภาจะมีมติ และให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อดำาเนินการ
ตามมาตรา 273 และอัยการสูงสุด เพื่อดำาเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา
ของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองต่อไป แต่ถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ เห็นว่าข้อกล่าวหาใดไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาข้อนั้นเป็นอันตกไป
ในกรณีที่อัยการสูงสุดเห็นว่ารายงาน เอกสาร และความเห็นที่คณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติส่งให้ตามวรรคสี่ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะ
ดำาเนินคดีได้ ให้อัยการสูงสุด แจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติทราบเพื่อดำาเนินการต่อไป โดยให้ระบุข้อที่ไม่สมบูรณ์นั้นให้ครบถ้วนใน
คราวเดียวกัน ในกรณีนี้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และอัยการสูงสุดตั้งคณะทำางานขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนจากแต่ละฝ่ายจำานวนเท่ากัน
เพื่อดำาเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ แล้วส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดี
ต่อไป ในกรณีที่คณะทำางานดังกล่าวไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำาเนินการฟ้องคดี
ได้ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำานาจดำาเนินการ
ฟ้องคดีเองหรือแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทนก็ได้
77 มาตรา 273 เมื่อได้รับรายงานตามมาตรา 272 แล้ว ให้ประธานวุฒิสภา
จัดให้มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าวโดยเร็ว
ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติส่งรายงานให้
นอกสมัยประชุม ให้ประธานวุฒิสภาแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบเพื่อนำาความ
กราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัย
วิสามัญ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
119
