Page 99 - kpiebook63020
P. 99
7
๏ เครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อม บริษัทสมบัติทัวร์ และ SCG (เป็นองค์กรเอกชน
ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านแฮด) ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะแล้วนำไป
เผยแพร่ จนถือเป็นแนวทางการปฏิบัติในบริษัท จนสามารถถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
การบริหารจัดการขยะและประสบการณ์ให้กับผู้ที่มาศึกษาดูงานได้ อีกทั้งยังส่งเสริมสนับสนุน
เศรษฐกิจในชุมชน โดยการนำผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากขยะในชุมชนไปวางขายที่บริษัท และ
ขายให้กับเครือข่ายของบริษัทต่อไป
๏ เครือข่ายกลุ่มการจัดการขยะอินทรีย์ โดยการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ มีคณะกรรมการ
จำนวน 13 คน ได้รับการฝึกอบรมจากเทศบาล สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ในการจัดการขยะอินทรีย์
เป็นแหล่งให้ความรู้ในการผลิตปุ๋ยจากขยะอินทรีย์และส่งเสริมให้ชุมชนใช้ปุ๋ยอินทรีย์
แทนการใช้ปุ๋ยเคมี แบ่งปันกันระหว่างกลุ่มผักสวนครัวรั้วกินได้ แบ่งปันกันในชุมชน
โดยสามารถนำขยะอินทรีย์จำพวกเศษอาหาร เศษผักและผลไม้มาแลกน้ำหมักชีวภาพหรือ
ปุ๋ยหมักอินทรีย์ได้ เป็นการลดต้นทุนการผลิตในภาคการเกษตรและเกิดความปลอดภัยต่อ
เกษตรกร ผู้บริโภค และส่งผลให้ดินมีคุณภาพที่ดีอีกด้วย นอกจากการทำปุ๋ยแล้วกลุ่มจัดการ
ขยะอินทรีย์ยังมีการจัดทำเสวียนแฮดรักษ์โลก จำนวน 50 จุด ทั้งในชุมชนและที่สาธารณะ
เพื่อใช้สำหรับจัดการขยะอินทรีย์จำพวกเศษใบไม้ กิ่งไม้ โดยมีชุมชนเป็นทีมงานในการดำเนินงาน
เทศบาลมีหน้าที่จัดอบรมให้ความรู้ รวมทั้งระดมทุนจากหน่วยงาน บ้าน วัด โรงเรียนและ
บริษัทเอกชน สนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุ
๏ เครือข่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์จากเศษผ้าและวัสดุเหลือใช้ มีคณะกรรมการจำนวน
10 คน เป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นจากการนำเศษวัสดุที่ต้องนำไปกำจัดเป็นปริมาณมากในแต่ละวัน
มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์และมีมูลค่า เช่น เศษผ้าเช็ดตัวนำมาแปรรูปเป็น
กระถางต้นไม้ บ่อเลี้ยงปลาหรือถังขยะจากผ้าเช็ดตัวเก่าชุบน้ำปูน ถุงผ้าจากเศษผ้า หมอนอิง
เบาะรองนั่งจากเศษผ้าที่ยัดไส้ด้วยเศษผ้า เศษถุงพลาสติกและเศษหลอดพลาสติก ทำให้ขยะ
ทั่วไปที่ต้องนำไปกำจัดมีปริมาณลดลงและสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการขาย
ผลิตภัณฑ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ประมาณ 80-100 ชิ้นต่อเดือน เป็นเงินประมาณ 3,000-
5,000 บาท โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 2 ส่วน เป็นกองกลางของกลุ่มในการซ่อมแซมจักร
ซื้อด้าย ซื้อเข็ม บริหารจัดการภายในกลุ่ม ค่าจ้างคนช่วยเย็บในกรณีเร่งด่วนร้อยละ 30 และ
อีกร้อยละ 70 ให้กับแม่ยุพิน กุดกี้ ซึ่งเป็นเจ้าของเศษผ้า และสถานที่รวมกลุ่มกันเย็บผ้า
รางวัลพระปกเกล้า 63
