Page 144 - kpiebook63009
P. 144
144 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุพรรณบุรี
4. ผลกำรสัมภำษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
จากการสัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย เหตุผลที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง
ความผูกพันของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง นโยบายที่ใช้ในการหาเสียง วิธีการหาเสียง บุคคล/บุคคล
กลุ่มที่ช่วยสนับสนุนการเลือกตั้ง ค่าใช้จ่าย ปัญหา อุปสรรค และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และ
เทคโนโลยี มีรายละเอียด ดังนี้
4.1 เหตุผลที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ความผูกพันของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง พบว่า
ผู้สมัครรับเลือกตั้งลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เป็นตระกูลการเมืองที่ทำางานมาอย่างต่อเนื่อง
สืบทอดกันมานับจากรุ่นบิดา ต้องการขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุน อยู่ในแวดวงการเมืองทำางานการเมืองมาตั้งแต่ใน
ระดับการเมืองท้องถิ่น ต้องการสืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมือง ความศรัทธาในพรรคการเมือง การให้ความช่วยเหลือ
ความต้องการพัฒนาพื้นที่ที่ยังมีความขาดแคลน รวมถึงความต้องการในการเปลี่ยนแปลงสังคม ที่ผ่านมา
สังคมไม่มีทางออกของการแบ่งขั้วทางการเมือง และต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนรุ่นใหม่ ดังคำาสัมภาษณ์
นำยณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคชำติไทยพัฒนำ กล่าวว่า
“ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตระกูลท�างานในเขตเดิม ร่วมงานทุกงาน คุณพ่อ (คุณหมอบุญเอื้อ
ประเสริฐสุวรรณ) เป็น ส.ส. มา 10 สมัย ตัวผมเองเป็น 4 สมัย ปี 38 คุณบรรหารเป็นนายก คุณพ่อ
ได้เป็นประธานรัฐสภา พอคุณพ่อวางมือทางการเมือง ชาวบ้านมาขอจากคุณพ่อ ชาวบ้านให้การ
สนับสนุน เป็นเรื่องที่ต้องตอบแทน เป็นหนี้บุญคุณ voter”
นอกจากนี้นำยณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ยังได้กล่าวถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้ง
เพราะมองว่าตนเองเป็นดาวฤกษ์ และหากลงเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อก็ไม่ทราบว่าจะอยู่ในลำาดับที่เท่าใด
ดังคำาสัมภาษณ์
“... เพราะอะไรไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เป็นเพราะเรามีพื้นที่ มีอาณาจักรครอบครอง เราเป็นดาวฤกษ์
เราชอบแบบนี้มากกว่า และเราไม่รู้ว่าจะอยู่อันดับที่เท่าไร”
ขณะที่นำยสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคชำติไทยพัฒนำ กล่าวว่า
“ผมเป็นนักกิจกรรมมาตลอดตั้งแต่เรียนมัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย... และอาจเป็นเพราะ
ครอบครัวอยู่ในแวดวงนักการเมืองมาก่อนและเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด 2 สมัย รองประธานสภา
คนที่ 1 และเคยเป็น ส.ส. 1 สมัยแล้วตอนที่ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนจะเกิดการ
ปฏิวัติ และมีความรู้สึกอยากจะมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงและสืบสานพรรคชาติไทยพัฒนาให้
อยู่ต่อไปเพราะขาดหลักยึดเหนี่ยว (ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา) ขาดก�าลังหลักในการพัฒนาและ
ต่อยอดทางตรง ซึ่งทางครอบครัวสุจิตต์ให้การสนับสนุนให้ตนมาท�าหน้าที่เป็นตัวแทนคนสุพรรณ
เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ท่านบรรหารในการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะสุพรรณบุรี
