Page 153 - kpiebook63005
P. 153

152   การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดขอนแก่น








                      นวัธเพิ่งกลับมาปักหลักลงพื้นที่ภายหลังลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ในต้นเดือนกุมภาพันธ์

             เนื่องด้วยเวลามีจำากัดจึงหาเสียงได้ไม่ครบ โดยไม่ได้ลงไปหาเสียงเลยในตำาบลบ้านกงและตำาบลบ้านผือ
             อำาเภอหนองเรือ การหาเสียงจะเน้นกล่าวนโยบายพรรค คุณูปการของทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

             ที่มีต่อคนขอนแก่นและจุดยืนพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่กำาลังต่อสู้พรรคฝ่ายเผด็จการเป็นหลัก อนึ่งด้วย
             การลงพื้นที่น้อย จึงทำาให้ถูกพรรคคู่แข่งโจมตีว่า นวัธติดคดี ลงพื้นที่ไม่ได้ ดังนั้น ไม่ควรเลือกนวัธ


                      ปัจจัยที่สามคือ การอาศัยฐานทีมงานเดิมที่คุ้นเคยตั้งแต่สมัยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นจนถึง

             การเป็น ส.ส. มาสองสมัยของนวัธ คนใกล้ชิดนวัธเล่าว่า ไม่เพียงแต่น้องชายต่างมารดาและภรรยาที่
             ดูแลในพื้นที่หนองเรือให้แล้ว นวัธยังมีส.อบจ.ของอำาเภอมัญจาคีรี ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่นวัธนับว่าเป็น

             เพื่อนสนิทที่สุดคอยทำาหน้าที่เป็นฐานเสียงให้ในอำาเภอมัญจาคีรี ขณะที่นวัธยังได้ฐานเสียงอำาเภอมัญจาคีรี
             ของธนิก มาสีพิทักษ์อีกด้วย ประชาชนในพื้นที่มัญจาคีรีได้กล่าวกับทีมผู้วิจัยว่า ที่ต้องเลือกนวัธเพราะหวัง

             จะทำาให้ธนิกได้เข้าไปทำางานในรัฐสภา เนื่องจากธนิกเป็นผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำาดับที่ 24 ต่างจาก
             สมศักดิ์ที่พ่ายแพ้ในอำาเภอมัญจาคีรีเนื่องจากไม่ค่อยคุ้นเคยพื้นที่มากเท่าไรนักเมื่อเทียบกับอำาเภอ

             หนองเรือ


                      ควรเรียนรู้เล็กน้อยว่า ฐานเสียงการทำางานของนวัธถือว่ามีระบบติดต่อสื่อสารถึง 3 ชั้น ชั้นแรก
             เรียกว่าทีมเอ เป็นแกนนำาหมู่บ้านละ 2 คน คอยทำาหน้าที่ดูแลทีมบี คือประชาชนผู้มีบทบาทในหมู่บ้าน
             ประมาณ 30 คน และทีมเค เป็นหัวคะแนนในระดับตำาบลที่ต้องดูแลทีมเอและทีมบี ตลอดจน ทำางานใน

             สำานักงานพรรคของนวัธด้วย สมาชิกทีมเคจะได้รับเงินเดือนทุกเดือน ประเด็นนี้จึงทำาให้นวัธรักษาฐาน

             เสียงของตนเองไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ตนเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่เท่าไรนัก

                      นอกจากนี้ หากพิจารณาคะแนนโดยรวมของพื้นที่จะพบว่า คะแนนของนายสมควร ไกรพน

             อดีตผู้อำานวยการโรงเรียน จากพรรคอนาคตใหม่ถือว่าสูงมากเช่นกันคือ 12,414 คะแนน และคะแนน
             ของนายนาวิน คำาเวียง นักธุรกิจในท้องถิ่น จากพรรคประชาชาติถือว่าได้สูงที่สุดในจังหวัดขอนแก่น

             เมื่อเทียบกับผู้สมัครรายอื่นจากพรรคเดียวกัน โดยนาวินได้ 9,350 คะแนน และหากพิจารณาจากคะแนน
             ของพรรคการเมืองที่ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ 10 อันดับแรกในเขต 7 จะพบว่า พรรคเพื่อไทย

             29,710 เสียง พรรคอนาคตใหม่ 12,414 เสียง พรรคประชาชาติ 9,350 เสียง พรรคเพื่อชาติ 1,767 เสียง
             และพรรคเสรีรวมไทย 1,062 เสียง เท่ากับ 54,303 เสียง ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับพรรคที่สนับสนุน

             พล.อ.ประยุทธ์
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158