Page 110 - kpiebook63005
P. 110
109
ประกำรที่สำม อิทธิพลทำงกำรเมืองที่ลดน้อยลงของตระกูลพัฒน์ด�ำรงจิตรและ
ควำมประมำทของจักริน
จักรินได้เป็น ส.ส. ตั้งแต่ปี 2544 เรื่อยมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนื่องจากเขาเติบโตมาในครอบครัว
ผู้กว้างขวางมากด้วยบารมีและมากด้วยธุรกิจหลากหลายของเสี่ยเจริญ พัฒน์ดำารงจิตร บิดาของเขา
ในอดีตเสี่ยเจริญได้รับการขนานนามในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคอีสานไม่แพ้สมชาย คุณปลื้ม หรือ กำานันเป๊าะ
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออก เจริญเป็นทั้งนักธุรกิจคนสำาคัญของขอนแก่นและภาคอีสาน เช่นเดียวกับเป็น
ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ในอดีตนั้น จะมีข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง
ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเข้ามาฝากเนื้อฝากตัวกับเขาเป็นประจำา กล่าวกันว่า เฉพาะทรัพย์สินที่
เปิดเผยได้ของเจริญในปี 2538 มีไม่น้อยกว่า 2,000 ล้าน ไม่เพียงเท่านั้น เจริญยังมีส่วนในการสนับสนุน
219
และทำาให้ส.ส.พรรคกิจสังคมในจังหวัดขอนแก่นชนะการเลือกตั้งได้ถึง 5 คนจาก 9 คนในการเลือกตั้ง
ปี 2522 และ 6 คนจาก 9 คนในการเลือกตั้งปี 2526 โดยนักการเมืองขอนแก่นหลายคนในขณะนั้น
ต่างอยู่ในสังกัดของเจริญ เช่น สุทัศน์ ศรีรัตนพรรณ สุวิทย์ คุณกิตติ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ร.ต.อ. สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ฯลฯ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงเช่นจังหวัดร้อยเอ็ด มีนายเวียง วรเชษฐ์
และตระกูลจุรีมาศอยู่ในสังกัดกลุ่มนายเจริญเช่นกัน จากนั้นนายเจริญมีส่วนในการผลักดันและสนับสนุน
พรรคความหวังใหม่ ก่อนหน้านี้เจริญเคยผลักดันให้จักรินลงสนามการเมืองท้องถิ่น โดยลงในนามกลุ่ม
“รักพัฒนานครขอนแก่น” ในการเลือกตั้งปี 2538 ผลปรากฏว่ากลุ่มดังกล่าวชนะถล่มทลายส่งผลให้จักริน
ได้ดำารงตำาแหน่งเทศมนตรีฝ่ายอนามัยและสิ่งแวดล้อม อันเป็นตำาแหน่งการเมืองในระดับท้องถิ่นของ
220
คนวัย 31 ปีในขณะนั้น ต่อมานายเจริญมีบทบาทในการสนับสนุนอย่างเงียบๆ ต่อพรรคนำาไทยและพรรค
ไทยรักไทย อนึ่ง ปัจจุบันเจริญอายุ 85 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้บทบาททางธุรกิจของตระกูลพัฒน์ดำารงจิตรจะยังคงโดดเด่นและครองส่วนแบ่ง
ตลาดจำานวนมหาศาลของจังหวัด ทว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ภูมิทัศน์ของคนขอนแก่นยุคใหม่หรือใน
ช่วงระหว่างวัยใหม่ (อายุราว 20-50 ปี) ที่มีต่อการเมืองขอนแก่นในเขต 1 ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน กล่าวคือ
พวกเขาไม่ได้เคยอยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์หรือเครือข่ายใดๆ กระทั่งมีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับตระกูลนี้
ในสังคมเมืองสมัยใหม่ ประชาชนจำานวนมากไม่ได้มีความภักดีต่อผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเหมือนสังคมชนบท
221
ในอดีต อีกทั้ง ในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ในจังหวัดขอนแก่นได้มีกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เติบโตและ
มีบทบาทในจังหวัดเป็นจำานวนมาก แม้ในแง่บารมีตระกูลพัฒน์ดำารงจิตรจะยังสามารถทำาให้ประชาชน
ขอนแก่นจำานวนหนึ่งเลือกจักริน แต่ถือว่าเป็นปัจจัยที่น้อยมาก หากเทียบกับพรรคการเมืองที่จักรินสังกัด
และรูปแบบการหาเสียงของจักรินเอง
219 พิจารณากิจการธุรกิจที่ถูกมองว่าเป็น “สีเทา” ได้ใน อัครวิทย์ ขันธ์แก้ว, นักธุรกิจภูมิภาคกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง:
ศึกษากรณีจังหวัดขอนแก่น (วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2540)
หน้า 60-63.
220 เรื่องเดียวกัน หน้า 65-69.
221 ปรากฏการณ์นี้สามารถพิจารณาควบคู่กับการสอบตกของตระกูลคุณปลื้มในจังหวัดชลบุรีในการเลือกตั้งที่ผ่านมา