Page 31 - kpi22408
P. 31
30
โดยคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งคนหนึ่งๆ ต้องมีค่านำ้าหนัก
เท่ากันกับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งคนอื่นๆ
การจัดให้มีการเลือกตั้งแต่ละครั้งจะต้องเป็นไปตามตัวบท
กฎหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมาย ปราศจากการครอบงำาและ
เล่ห์โกงทางการเมืองใดๆ และหากผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นว่าการเลือกตั้ง
มีการทุจริตก็สามารถคัดค้านและฟ้องร้องให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะได้
ทั้งนี้ ต้องมีการกำาหนดเวลาที่แน่นอนในการจัดการเลือกตั้งไว้ในกฎหมาย
และระยะเวลาที่กำาหนดไว้แต่ละครั้งนั้นจะต้องไม่เนิ่นนานเกินไปซึ่งส่วน
ใหญ่จะอยู่ระหว่าง 2-7 ปี เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสตรวจสอบว่าบุคคล
ที่ประชาชนเลือกไปทำาหน้าที่นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ตามเจตนารมณ์ของ
ประชาชนหรือไม่ นอกจากนี้ เนื่องจากการออกเสียงเลือกตั้งของประชาชน
เป็นเอกสิทธิ์ของผู้เลือกตั้งโดยเด็ดขาด จึงต้องมีมาตรการทางกฎหมาย
ในการปกป้องพิทักษ์ให้เอกสิทธิ์นี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ อิสระ โดยมิให้
ผู้อื่นล่วงรู้ว่าประชาชนลงคะแนนเลือกใคร ในขณะเดียวกัน ประชาชน
จะต้องมีโอกาสที่จะเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองที่ตนนิยมชมชอบ
ได้โดยปราศจากการบีบบังคับข่มขู่ด้วยประการใดๆ ไม่ว่าจะด้วยการใช้
อามิสสินจ้างจูงใจหรือการใช้อิทธิพลบีบคั้น
อย่างไรก็ตาม การมีหลักประกันทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว
อาจไม่เพียงพอให้การใช้อำานาจการปกครองของประชาชนโดยการเลือกตั้ง
เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ได้ ประชาชนยังจะต้อง
เข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งอย่างแข็งขันด้วย โดยประชาชนสามารถ
เข้าไปมีส่วนร่วมในแต่ละช่วงเวลาของการเลือกตั้งได้ ดังนี้
7/2/2565 BE 16:08
inside_�������������.indd 30
inside_�������������.indd 30 7/2/2565 BE 16:08