Page 300 - kpi22350
P. 300
แผนภาพที่ 3-50 แสดงคะแนนนิยมของคณะก้าวหน้า-อนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและ
ระดับชาติ รายงานสถานการณ์
ที่มา: คณะก้าวหน้า. ค้นหาผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล. สืบค้นจาก https://progressivemovement.in.th/
local-election/?list=0 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564.
เมื่อพิจารณาผลการเลือกตั้งเทศบาลจะเห็นว่า คณะก้าวหน้ามีความพยายามขับเคลื่อนการเมือง
ระดับท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกกดดันทางการเมืองในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การยุบพรรค
อนาคตใหม่ การถูกเพ่งเล็งด้วยข้อหาล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือการถูกกล่าวหาจากขั้วการเมือง ส่วนที่ 3 สถิติและข้อมูล การเลือกตั้งท้องถิ่น “องค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล”
ฝ่ายตรงข้ามมากมาย คณะก้าวหน้าได้เริ่มต้นพิสูจน์ตัวเองในการเมืองท้องถิ่น ด้วยการส่งผู้สมัคร
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลงแข่งขันในหลายพื้นที่
ผลการเลือกตั้ง อบจ. ที่ผ่านมาได้เผยให้เห็นว่า แม้ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสังกัด
คณะก้าวหน้าจะไม่ได้รับเลือกตั้งในตำแหน่งเลย แต่ก็สามารถคว้าตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดได้ในบางพื้นที่ถึง 55 คนจากจำนวนที่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ 1,000 คน ในพื้นที่
18 จังหวัด ซึ่งจังหวัดที่สมาชิกสภา อบจ. ของคณะก้าวหน้าได้รับคัดเลือกมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
ลำพูน ฉะเชิงเทรา อุตรดิตถ์ อุดรธานี และยโสธร อีกทั้งยังสามารถรักษาคะแนนนิยมไว้ได้ถึงร้อยละ 17
เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมในการเลือกตั้งระดับชาติอยู่ที่ร้อยละ 16.2 และมีคะแนนดิบที่ได้จากการเลือกตั้ง
อบจ. ในจำนวนที่ใกล้เคียงกับการเลือกตั้งระดับประเทศ 50
เช่นเดียวกันกับการเลือกตั้งเทศบาลที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้พยายามพิสูจน์ตัวเองอีกในสนาม
เลือกตั้งท้องถิ่น ด้วยการชูประเด็นสำคัญว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนและมีความสำคัญ
เท่ากันกับการเมืองระดับชาติ โดยหนึ่งในนโยบายหลักที่คณะก้าวหน้าใช้หาเสียงทั้งในการเลือกตั้ง อบจ.
และเทศบาล คือ นโยบายด้านการศึกษา ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับท้องถิ่นได้อย่างมี
คุณภาพและเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นหาเสียงในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
50 อ้างอิงข้อมูลตัวเลขจากเว็บไซต์ เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มได้ที่บ้านเรา – คณะก้าวหน้า, สืบค้นจาก
progressivemovement.in.th, เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564.
สถาบันพระปกเกล้า 289