Page 285 - kpi22350

หากเราย้อนพิจารณาสถิติการไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล ระหว่างปี พ.ศ.2551 - 2564 พบว่า
รายงานสถานการณ์ เลือกตั้งทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ. 2556 ที่มีสัดส่วนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล
ในปี พ.ศ.2551 มีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 61.24 ของจำนวนผู้มีสิทธิ

มากที่สุดถึงร้อยละ 70.18 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ส่วนในปี พ.ศ.2564 จำนวนผู้ไปใช้สิทธิ
เลือกตั้งเทศบาลกลับลดลงร้อยละ 4.82 หรือมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 66.95 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ทั้งหมด

เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนการไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลและการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งล่าสุด พบว่า
แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่ประชาชนยังคงออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ส่วนที่ 3 สถิติและข้อมูล การเลือกตั้งท้องถิ่น “องค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล”
เทศบาลมากกว่าการเลือกตั้ง อบจ. เพียงเล็กน้อย โดยสัดส่วนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ
อยู่ที่ร้อยละ 66.95 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ

อยู่ที่ร้อยละ 62.25 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด หรือกล่าวได้ว่า ผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลมีสัดส่วน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.02 เมื่อเทียบกับสัดส่วนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. นั่นเอง

แผนภาพที่ 3-38 แสดงสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกเทศบาล ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2564

ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, กกต.เผย 5 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีมากที่สุด,
ข่าวประชาสัมพันธ์ เลขที่ข่าว 38/2564 เผยแพร่เมื่อ 8 เมษายน 2564.

สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกท้องถิ่น (ทั้งการเลือกตั้ง อบจ. และการเลือก

เทศบาล) ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ กกต. กำหนดเป้าหมายเอาไว้ว่า จะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งทั้งหมด อีกทั้งบรรยากาศก่อน – หลังการเลือกตั้งท้องถิ่นกลับไม่ได้คึกคักอย่างที่หลายฝ่าย
คาดการณ์กันไว้ ซึ่งอาจมาจากสาเหตุสำคัญหลายประการ ดังนี้

274 สถาบันพระปกเกล้า