Page 87 - kpi20973
P. 87

86



                         2) ระดมสมองเพื่อแก้ไขปัญหา  การรวมกลุ่มในปัจจุบันนี เป็นระยะต้นๆ ในการพัฒนา โดย

              ผู้วิจัยใช้กระบวนการระดมสมองเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งในอดีตการระดมสมองเพื่อการแก้ปัญหาเป็นหน้าที่และ

              บทบาทของผู้น้าที่มักเสนอแนวทางให้สมาชิกในกลุ่มคิดปฏิบัติตาม อ้านาจส่วนใหญ่จึงเป็นของผู้น้าเกือบ

              ทั งหมด  แต่เมื่อเข้ามารวมกลุ่มอาชีพแล้ว สมาชิกในกลุ่มทุกคนร่วมกันคิดระดมสมองเพื่อการแก้ปัญหา

              มีการน้าปัญหามาสนทนาในวงหรือการประชุมเล็กของกลุ่มเพื่อจะช่วยกันระดมสมองในการแก้ไขปัญหานั นๆ

              ปัญหาที่พบ เช่น เห็ดไม่ออกเกิดจากอะไร  ก้อนเชื อเห็ดเป็นราจะต้องท้าอย่างไร โรงเรือนมีความไม่พร้อม

              ในหลายด้านจะช่วยกันท้าอย่างไร จะเพิ่มจ้านวนก้อนเชื อเห็ดเพื่อการจ้าหน่ายอย่างไร  งบประมาณที่ได้รับ

              จากการจ้าหน่ายเห็ดจะด้าเนินการอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร เป็นต้น  ซึ่งผู้วิจัยมองว่าการยอมรับฟังความคิดเห็น

              และการร่วมกันแก้ปัญหาเป็นผลดีเมื่อสมาชิกในกลุ่มไปร่วมในการท้ากิจกรรมอื่นๆ ของส่วนรวมในชุมชนที่ตน

              ด้ารงอยู่ต่อไป

                         3) น้าพาสู่การปฏิบัติ  ในกระบวนการนี กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาความมั่นคงช่วยกันลงมือปฏิบัติ เพื่อให้

              บรรลุเป้าหมายที่ก้าหนดร่วมกัน คือ การมีอาชีพ สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง พบว่า สมาชิกกลุ่มทุกคนมีความ

              ตั งใจใส่ใจสนใจ และมีการจัดการกลุ่มโดยการแบ่งบทบาทหน้าที่รับผิดชอบในกลุ่มอย่างชัดเจน เช่น การผลิต

              จะช่วยกันคนละไม้คนละมือ การดูแลบ้ารุงรักษา การเก็บผลผลิตเพื่อจ้าหน่าย การท้าบัญชีรายรับรายจ่าย

              การน้าไปจ้าหน่าย เป็นต้น  โดยได้ลงมือปฏิบัติร่วมกันอย่างดีในทุกขั นตอนตั งแต่เริ่มต้นก่อตั งกลุ่ม การลงมือ


              ปฏิบัติในการผลิตก้อนเชื อเห็ดจนกลายเป็นก้อนเชื อเห็ดที่สมบูรณ์ พร้อมเปิดปากถุงเพื่อจ้าหน่ายในพื นที่
              โดยการจ้าหน่ายในชุมชน กิโลกรัมละ 60 บาท และจ้าหน่ายแบบถุงๆ ละ 20 บาท  และไม่เพียงพอต่อความ


              ต้องการของคนในชุมชนที่นิยมทานเห็ดและน้าไปประกอบอาหารในรูปแบบต่างๆ ในขั นตอนนี ท้าให้สมาชิก
              กลุ่มเรียนรู้ที่จะปฏิบัติร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบตามบทบาท เช่นเดียวกับการท้างานร่วมกับประชาชน


              ที่อาศัยอยู่ในชุมชนของตนเอง

                         4) ประเมินสู่ความส้าเร็จ  เป็นกระบวนการในการพัฒนาอีกขั นตอนหนึ่ง ที่พบว่า กลุ่มผู้ร่วม

              พัฒนาความมั่นคงได้ช่วยกันระดมสมองแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการด้าเนินงาน โดยใช้กลุ่มอาชีพการเพาะเห็ด

              เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนในครั งนี   โดยสมาชิกทุกคนรับรู้ผลร่วมกันในการขับเคลื่อนกลุ่ม เมื่อพบว่า

              มีความส้าเร็จก็ไม่ได้มีการอยากได้ผลตอบแทนในครั งนั นทันที แต่ต้องการให้กลุ่มขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้และ

              มีความยั่งยืนแบบต่อเนื่อง โดยงบประมาณที่จ้าหน่ายได้ในระยะหนึ่งช่วยกันน้ากลับมาด้าเนินกิจกรรมให้

              ต่อเนื่องเพราะเชื่อว่าเมื่อทุกคนในกลุ่มช่วยกัน เป้าหมายคงอีกไม่ไกลในการสร้างอาชีพ ให้เกิดเป็นรายได้เสริม

              ที่ยั่งยืน  โดยในปัจจุบันนี เป็นผลผลิตที่ด้าเนินร่วมกันในรุ่นที่ 2 แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของสมาชิกใน
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92