Page 17 - kpi20858
P. 17
4
ไทยเข้ากับแนวทางตะวันตกเกิดเป็นรูปแบบใหม่ตามสมัยนิยม ทั้งนี้สามารถแบ่งแยกรูปแบบศิลปกรรม
ได้ 2 ลักษณะ คือ
1.รูปแบบศิลปกรรมไทยแนวตะวันตก เป็นการน าหลักกการสัจนิยมตะวันตกมาผสมผสาน
กับอุดมคตินิยมแบบไทย เช่น จิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรม
มหาราชวัง กรุงเทพฯ
2. รูปแบบศิลปกรรมตะวันตก เป็นการสร้างผลงานแบบเหมือนจริงอย่างตะวันตก เช่น พระ
บรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าร าไพพรรณี พระ
บรมราชินี หรือปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และอนุสาวรีย์ท้าว
8
สุรนารี เป็นต้น
ด้านเนื้อหาเรื่องราวที่ปรากฏในงานจิตรกรรม พระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์
และพระบรมวงศานุวงศ์ยังคงด าเนินควบคู่ไปกับเรื่องราวทางศาสนาและความเชื่อ แต่ทว่าในสมัยนี้
กลับมีการแสดงออกที่ต่างออกไป เช่น จิตรกรรมฝาผนังที่วัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนคร
ศรีอยุธยา ปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แทนการเขียน
ภาพพุทธประวัติดังที่นิยมท ากันมาแต่กาลก่อนอย่างมีนัยส าคัญ ตลอดจนการสร้างอนุสาวรีย์ปฐม
บรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 1 ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่ถูกก าหนดจากทางการโดยพระมหา
กษัตริย์ ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้คณะราษฎร์ซึ่งรับช่วงการอุปถัมภ์ต่อมา อนุมัติสร้างอนุสาวรีย์
9
ทั่วประเทศไทย เช่น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วยรูปแบบนีโอนีโอฟาสซิสต์
(Neo-Fascist style) ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่
10
8 จากตัวอย่างข้างต้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสภาพการณ์ทางสังคมและการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลง
ศูนย์กลางแห่งอ านาจของผู้อุปถัมภ์ จากพระมหากษัตริย์มาสู่รัฐ เป็นผลท าให้การก าหนดรูปแบบ
และเนื้อหาในการแสดงออกทางศิลปะนั้นเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ผลงานศิลปกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัย นอกจากจะเกี่ยวพันกับศาสตร์ด้านสุนทรียะ
ความงามแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ส าคัญของไทยอีกประเภทหนึ่ง ทั้งนี้แม้ว่า
ช่วงเวลาของการครองราชย์ในสมัยรัชกาลที่ 7 จะด าเนินไปด้วยระยะเวลาเพียง 9 ปี แต่ทว่ากลับ
8 วิโชค มุกดามณี และคนอื่น ๆ. ศิลปะรัตนโกสินทร์ รัชกำลที่ 1-8, 236-237.
9 สุธี คุณาวิชยานนท์,จำกสยำมเก่ำสู่ไทยใหม่: ว่ำด้วยควำมพลิกผันของศิลปะจำกประเพณีสู่สมัยใหม่และ
ร่วมสมัย, 38.
10 พิริยะ ไกรฤกษ์ และเผ่าทอง ทองเจือ, ศิลปกรรมหลัง พ.ศ.2475 (กรุงเทพฯ: สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์, 2525), 28.