Page 107 - kpi20366
P. 107
21. หลังจากที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่ประชุมสภาเกี่ยวกับการทุจริตโครงการของรัฐโครงการ
หนึ่ง มติของสมาชิกในที่ประชุมเห็นว่าผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจยังมีความชอบธรรมในด ารง
ต าแหน่งต่อไป แม้จะมีหลักฐานยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวกระท าผิดจริง แต่ก็ไม่ได้มีการลงโทษ
ตามกฎหมายแต่อย่างใด อ้นเห็นว่ามติของสมาชิกในที่ประชุมไม่สมเหตุผลจึงโพสต์ข้อความใน
เฟสบุ๊คหเพื่อโน้มน้าวให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ออกไปชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่น โดยไม่
ต้องผ่านกระบวนทางกฎหมาย พฤติกรรมของอ้นขาดการรู้เท่าทันสื่อข้อใด (ตัวชี้วัดที่ 20)
(1) การน าเสนอข้อมูลที่ขาดความระมัดระวังที่ส่งผลให้ผู้ที่ขาดประสบการณ์ที่เข้ามาเปิดดูเกิด
ความเข้าใจผิด
(2) บิดเบือนข้อมูล หรือน าเสนอข้อมูลเท็จ ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงผู้อื่น
ให้หลงเชื่อ
(3) การสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(4) การก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
22. ข้อใดมีเนื้อหาที่เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (ตัวชี้วัดที่
21)
(1) แก้ม โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่กรุงเทพอาจจะเป็นพื้นที่จมน ้าในอีก 20-30 ปี
ข้างหน้าในเฟสบุ๊ค โดยวิเคราะห์จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลก
ร้อน ท าให้น ้าแข็งขั้วโลกละลาย
(2) สวย ส่งต่อข่าวที่รัฐบาลก าลังจะประกาศลอยของค่าเงินบาท เนื่องจากเกิดปัญหาฟองสบู่ใน
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จึงชักชวนให้ทุกคนถอนเงินออกจากธนาคารพาณิชน์
(3) ภัทร โพสต์สเตตัสเกี่ยวกับพายุฤดูร้อนในพื้นที่ภาคกลาง โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากรายงาน
ของกรมอุตุนิยมวิทยา จึงเสนอให้รัฐบาลประกาศหยุดเรียนเพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะ
เกิดขึ้น
(4) จอห์น โพสต์ข้อความวิเคราะห์ว่านโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดใหม่ อาจส่งผลกระทบ
ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเป็นการเน้นการเอาใจประชาชน และหวังผลทาง
การเมือง โดยกล่าวว่าประชาชนควรพึ่งพาตนเองและไม่ควรหลงเชื่อนโยบายที่พรรค
การเมืองใช้หาเสียง
23. ข้อใดเป็นการน าเสนอข้อมูลด้วยความระมัดระวังที่ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเด็กหรือผู้ที่
ขาดประสบการณ์เมื่อเข้ามาดู (ตัวชี้วัดที่ 22)
(1) แดง โพสต์ข้อความว่า “กลุ่มคนที่จบมหาวิทยาลัยมีแนวโน้มที่จะประสบความส าเร็จมากกว่า
กลุ่มคนที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย”
98