Page 3 - kpi20350
P. 3

2



                                                    บทสรุปผู้บริหาร

                       งานวิจัยเรื่อง “สันติวัฒนธรรมในพรรคการเมืองเพื่อเสริมสร้างกระบวนการปรองดองของประเทศ”

               เป็นการส ารวจและขับเคลื่อนภายใต้บริบททางการเมืองที่ก าลังจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2562  นับจาก

               ประเทศไทยได้เกิดภาวะวิกฤตการณ์ทางการเมือง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อประเทศชาติและประชาชน
               พลเมืองไทย เป็นอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

               ของผู้คนในสังคม ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 เป็นต้น
               มา วิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในห้วงระยะเวลาเกือบ 10 ปี จวบจนปัจจุบันนั้น สะท้อนให้เห็น

               ชุดความคิด (Mind set) ที่แตกต่างกันของทั้งสองฝ่ายทางการเมืองอย่างชัดเจนคือ โดยความขัดแย้งทาง

               การเมืองของ ประเทศไทยนั้น แต่ละฝ่ายได้หยิบยกความชอบธรรมเพื่อให้ประชาชนแต่ละฝ่าย ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อ
               ชัยชนะที่ตนยึดมั่นโดยใช้วาทกรรมในการปลุกกระดมต่อสู้ เช่น การโค่นล่มรัฐบาลที่มาจากอ านาจเผด็จการ

               การล้มรัฐบาลระบอบทักษิณ เป็นต้น สิ่งที่ตามมาคือการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปัจจุบันความ
               ขัดแย้ง ทางการเมืองยังฝังรากอยู่ในสังคมไทยและยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง หรือการค้นหา

               กระบวนการหาทางออกอย่างยั่งยืนร่วมกัน ภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะ

               รักษาความสงบแห่งชาติอันมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นหัวหน้าคณะและรัฐบาลที่น าโดยพลเอกประยุทธ์
               จันทร์โอชา พยายามที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการจัดให้มีการ

               เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีการก าหนดระยะเวลาไว้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ภายหลังรับ
               ประหารเกือบ 5 ปี ระยะทางประชาธิปไตยของประเทศจะด าเนินไปเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่น่าขบคิดทาง

               วิชาการและเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งส าหรับการค้นคว้าวิจัยทางการเมืองไทย


                       โดยประเด็นส าคัญของงานวิจัยนี้ เพื่อเป็นการส ารวจว่าองค์กรพรรคการเมืองเหล่านี้ โดยเฉพาะ 2

               พรรคใหญ่คือ พรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ โดยทีมนักวิจัยจะศึกษาค้นคว้าว่า 2 พรรคใหญ่มีต้นทุน
               ทางสันติวัฒนธรรมมากน้อยเพียงไร โดยสะท้อนจากมุมมองสองมุมคือ พรรคการเมืองประเมินตนเองใน

               ประเด็นการมีอยู่ของสันติวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมที่สะท้อนเรื่องสันติวัฒนธรรมในพรรคการเมืองใหญ่
               ในประเทศไทย ในการขับเคลื่อนกระบวนการปรองดองของประเทศให้ยั่งยืนและประเด็นส าคัญของการศึกษา

               นี้คือ การค้นหาสันติวัฒนธรรมจากสถาบันทางการเมืองไทยและพัฒนาองค์ความรู้ และสามารถน าองค์ความรู้
               ที่ได้มาถอดเป็นรูปแบบ และกลไกส าคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างความปรองดองในสังคมไทยต่อไป

               ในอนาคต


                       วัตถุประสงค์ของการวิจัยฉบับนี้เพื่อ1) เพื่อค้นหาทุนทางสันติวัฒนธรรมในพรรคการเมืองไทย2) เพื่อ

               น าสันติวัฒนธรรมของพรรคการเมืองที่ได้มาประยุกต์ใช้เพื่อเกิดกระบวนการขับเคลื่อนการปรองดองของ
               ประเทศ3) เพื่อมีข้อเสนอแนะทางนโยบายในการใช้สันติวัฒนธรรมกับการแก้ไขปัญหาการเมืองการปกครอง

               ไทย โดยมีขอบเขตของการวิจัยเป็นงานวิจัยแบบ Mix –Method ผสมระหว่างปริมาณ และคุณภาพ ซึ่งผล
               วิเคราะห์ที่ได้เชิงปริมาณและผลวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ
   1   2   3   4   5   6   7   8