Page 227 - kpi19912
P. 227

ขั้นตอนไมํฟังเสียงชาวบ๎าน กํออันตรายเสี่ยงเป็นมะเร็ง พร๎อมยืนยันต๎องเปลี่ยนแนวเส๎นทางและให๎ท า
                   รายงานผลกระทบสิ่งแวดล๎อม (EIA)  รํวมกับเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร๑พีซี

                        นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมตํอต๎านสภาวะโลกร๎อน เปิดเผยวํา วันนี้เวลา 11.00 น. ทีมนัก
                   กฎหมายของสมาคมฯได๎รํวมกับชาวระยองกวํา 100 คนรํวมลงชื่อฟูองกฟผ. ผู๎ถูกฟูองที่ 1 และกกพ. ผู๎ถูก
                   ฟูองที่ 2  ตํอศาลปกครองระยอง ฐานกระท าการโดยไมํชอบด๎วยกฎหมาย ละเลยการปฏิบัติหน๎าที่ตามที่
                   กฎหมายก าหนดให๎ต๎องปฏิบัติ กรณีมีการก าหนดแนวเส๎นสายสํงไฟฟูาแรงสูงขนาด 230  กิโลโวลต๑ จาก

                   เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร๑พีซี เชิงเนิน-บ๎านคําย-จันทบุรี
                         ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่กกพ. และ กฟผ. ได๎ประกาศก าหนดเขตแนวสายไฟฟูาแรงสูงผําเข๎าไปใน
                   พื้นที่ชุมชนและสวนผลไม๎ขึ้นชื่อของชาวต าบลบ๎านแลง ต าบลตะพง ต าบลนาตาขวัญ อ าเภอเมือง และ

                   ต าบลซากบก อ าเภอบ๎านคําย จังหวัดระยอง โดยที่ชาวบ๎านไมํรู๎เรื่องมากํอน เป็นการใช๎อ านาจทาง
                   ปกครองโดยพลการ และไมํเปิดโอกาสให๎ชาวบ๎านมีสํวนรํวมในการตัดสินใจเลือกแนวเส๎นทางอื่นที่มี
                   ผลกระทบน๎อยกวํา เนื่องจากชาวบ๎านหวาดผวากับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมามากมาย ทั้งการท าลาย
                   สวนผลไม๎เกําแกํขึ้นชื่อของชาวระยองตลอดแนวเส๎นทางกว๎าง 40 เมตรจะถูกตัดโคํนทิ้งทั้งหมดและห๎าม
                   ปลูกไม๎ยืนต๎น ที่ส าคัญมีรายงานผลการวิจัยทั้งในและตํางประเทศยืนยันตรงกันวําผู๎ที่มีบ๎านเรือนหรืออยูํ

                   อาศัยใกล๎แนวสายสํงไฟฟูาแรงสูงระยะ 300 เมตรมีโอกาสเป็น “โรคมะเร็ง" มากกวําคนอื่นถึง 3-5 เทํา
                   อีกด๎วย
                         โดยชาวบ๎านทั้ง 4  ต าบลของจังหวัดระยองยืนยันชัดเจนวํา กฟผ. และ กกพ. ต๎องเปิดโอกาสให๎

                   ชาวบ๎านที่ได๎รับผลกระทบมีสํวนรํวมในการตัดสินใจ และต๎องมีการจัดท า EIA  ตามที่คณะรัฐมนตรีเคย
                   ก าหนด และต๎องการให๎โรงไฟฟูา บมจ.ไออาร๑พีซี (IRPC) ต๎นเหตุของปัญหาขนาด 90 เมกะวัตต๑ทั้ง 2 โรง
                   ที่อยูํในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร๑พีซีจัดท า EIA ด๎วยเชํนกัน หากไมํยอมเปลี่ยนแนวเส๎นทางไป
                   ยังแนวอื่นที่มีผลกระทบน๎อยที่สุดและข๎อเสนออื่นตามที่ชาวบ๎านเสนอ ชาวบ๎านก็พร๎อมที่จะปักหลักสู๎

                   จนถึงที่สุด
                         ทั้งนี้ สมาคมตํอต๎านสภาวะโลกร๎อน ได๎ขอให๎ศาลมีค าสั่งหรือค าพิพากษาให๎ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2  เพิก
                   ถอนประกาศส านักงานคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน เรื่อง ก าหนดเขตระบบโครงขํายไฟฟูา 230
                   กิโลโวลต๑ เชิงเนิน –  จุดเชื่อมระบบโครงขํายไฟฟูา 230  กิโลโวลต๑ บ๎านคําย –  จันทบุรี ซึ่งประกาศ ณ

                   วันที่ 6  ตุลาคม พ.ศ.2557  และเสนอให๎ กฟผ. ด าเนินการส ารวจแนวเส๎นทางที่เหมาะสมใหมํ โดย
                   กระบวนการศึกษาและการพิจารณาต๎องผํานกระบวนการการมีสํวนรํวมของประชาชนในพื้นที่ และให๎น า
                   ข๎อเสนอของประชาชนมาประกอบการเลือกแนวเส๎นทางด๎วย
                         นอกจากนี้ยังขอให๎ศาลมีค าสั่งหรือค าพิพากษาให๎ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 และหรือที่ 2 ด าเนินการอยํางใด

                   เพื่อประกาศเปลี่ยนแปลงเขตแนวสายสํงไฟฟูาแรงสูงใหมํ ให๎เป็นเส๎นตรงในลักษณะที่กํอให๎เกิดผลกระทบ
                   ตํอที่อยูํอาศัย ทรัพย๑สิน ไม๎ยืนต๎น และสวนผลไม๎ของผู๎ฟูองคดีให๎น๎อยที่สุด โดยให๎น าข๎อเสนอของ
                   ประชาชนมาประกอบการเลือกแนวเส๎นทางด๎วย และให๎เปิดเผยข๎อมูลรายละเอียดการศึกษาแนวเส๎นทาง

                   4  เส๎นทาง รวมทั้งข๎อดี ข๎อเสีย ของเส๎นทางดังกลําวให๎ประชาชนได๎รับทราบเพื่อใช๎ในการประกอบการ
                   พิจารณาเลือกแนวเส๎นทางใหมํที่เหมาะสม
                         รวมถึงขอให๎ศาลมีค าสั่งหรือค าพิพากษาให๎ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 และ IRPC จัดท ารายงานการวิเคราะห๑
                   ผลกระทบสิ่งแวดล๎อมให๎เป็นที่ยอมรับของประชาชนและหรือผู๎ฟูองคดีที่เป็นไปตามหลักวิชาการตามมติ




                                                            222
   222   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232