Page 59 - kpi19911
P. 59
59
5.จังหวัดอุบลราชธานี
ประเด็นที่ 4 กรณีความขัดแย้งในชุมชนกรณีหน่วยงานภาครัฐปล่อยให้เอกชนบุกรุกพื้นที่
สาธารณะประโยชน์ของชุมชนหมู่บ้านตุงลุง
พื้นที่ บ้านตุงลุง หมู่ 5 ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
ประเภทความขัดแย้ง ด้านสังคม(การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ)
ระดับการรับรู้ของสังคม ประเด็นความขัดแย้งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายระดับชาติทั้งหน่วยงานภาครัฐ ชุมชน
องค์กรเอกชนทั้งภายในเนื่องจากมีการเสนอข่าวออกไปในระดับประเทศ
ประเด็นขัดแย้ง หน่วยงานภาครัฐปล่อยให้เอกชนการบุรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์และมีผลกระทบ
ต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต จึงคัดค้านและขอให้ยุติ
สิทธิของเอกชนกลุ่มที่บุกรุกและให้ออกจากพื้นที่
ความเป็นมา เกิดเหตุการณ์ชุมนุมน าโดยนายสมบัติ องค์แก้ว ประธานคณะกรรมการ
หมู่บ้านตุงลุง ได้นัดสมาชิกคณะกรรมการหมู่บ้านตุงลุง รวมตัวคัดค้านกลุ่มบุคคลบุก
รุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของชุมชนบ้านตุงลุงที่ใช้เป็นท าเลเลี้ยงสัตว์ของ 4 ชุมชน
คือ บ้านตุงลุง ม.5 บ้านปากห้วยแคน ม.6 บ้านหัวเห่ว ม.11 และชุมชนโนนสูง ซึ่งการ
บุกรุกดังกล่าวท าให้พื้นที่สาธารณะที่ทุกคนมีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกันถูกยึดถือไปเป็น
ของส่วนตัว มีการแผ้วถางป่า พร้อมทั้งน าเครื่องยนต์จักรกลและน ารถไถ มาไถปรับ
พื้นที่เพื่อยกร่องปลูกมันส าปะหลัง เป็นพื้นที่บริเวณกว้าง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต
ของที่ดินสาธารณะของชุมชน
ต่อมาได้มีนายอาคม ผลเพิ่ม ผู้ใหญ่บ้านบ้านตุงลุง พร้อมด้วยนายสมบัติ
องค์แก้ว ประธานคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้เข้ามาห้ามปรามบุคคลคนผู้บุกรุกพื้นที่
(นายปรมินทร์ เชื่องดี) เพื่อไม่ให้ด าเนินการใดๆ ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์นี้กลุ่ม
บุคคลกลับไม่สนใจและท าการไถปรับพื้นที่ไปตามปกติ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้เคยแจ้ง
ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอ าเภอโขงเจียม ทหารและต ารวจ สภ.โขงเจียม เข้า
ด าเนินการจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาในพื้นที่ นายปรมินทร์ ก็พยามขับรถไถ
เพื่อที่จะหลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ล้อมไว้เพื่อที่จะน านายปรมินทร์ มา
พูดคุยให้หยุดการกระท าดังกล่าว พร้อมทั้งได้น าป้ายประกาศมาติดให้ชาวบ้านทั้งหมด
อพยพออกจากท าเลเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์บ้านตุงลุง ตามหนังสือ
ส าคัญที่หลวง ลงวันที่ 6 ต.ค.51 แปลงหมายเลข อบ 7460 บนเนื้อที่ 906 ไร่ 25
ตารางวา ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนรวมประชาชนให้ใช้ร่วมกัน ห้ามบุกรุก จับจอง หรือ
ครอบครอง เพื่อประโยชน์ส่วนตน แต่ก็ไม่เป็นผลและไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แต่อย่างใด
ที่ส าคัญกลุ่มผู้บุกรุกก็ไม่ได้เกรงกลัวและท าการบุกรุกต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่
ก็ไม่ได้ด าเนินการใดๆอีกเลย และไม่มีความคืบหน้าว่าจะแก้ปัญหาอย่าไร ส่งผลให้
เกิดความขัดแย้งขึ้นในชุมชนลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ชาวบ้านจึงเห็นว่าการร้องเรียนไม่
เป็นผล จึงต้องเดินทางไปยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่า
ราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มีค าสั่งการในการแก้ไขปัญหาลงมายังพื้นที่และ
ด าเนินการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มผู้บุกรุก เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่สามารถแก้ไข
ปัญหาได้