Page 38 - kpi19911
P. 38

38


                                      ป่าดังกล่าว ให้ประชาชนเข้าไปท ากิน หรือเช่าที่ท ากิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมาอย่าง

                                      ยาวนาน และเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปขัดขวาง
                                      ราษฎรที่เข้าไปแผ้วทางป่าจับจองพื้นที่ รวมทั้งการขัดแย้งกันเองในกลุ่ม กระทั่งเกิด
                                      การแบ่งฝักเป็นฝ่าย โดยมีราษฎรที่รวมตัวกันเข้าบุกรุกป่าดงใหญ่จ านวน 6 กลุ่มซึ่ง
                                      พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ เดิมมีเนื้อที่ 631,250 ไร่ เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่ง

                                      สุดท้ายของจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นแหล่งต้นน้ าล าธารที่ส าคัญ ได้แก่ ห้วยล านางรอง
                                      ห้วยล าปลายมาศ ถูกบุกรุกแผ้วถางยึดถือครองท าการเกษตรส่งผลให้มีพื้นที่เหลือ
                                      น้อยลง และในขณะนี้มีราษฎรหลายกลุ่มบุกรุกเข้าไปยึดจับจองพื้นที่ป่าจัดสรรเป็นที่
                                      ท ากินแล้วมากกว่า 2,000 ครัวเรือน รวมเนื้อที่กว่า 10,0000  ไร่ เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็น

                                      พื้นที่ท ากินของราษฎรมาก่อน แต่ทางภาครัฐได้ให้บริษัทเอกชนเข้าไปเช่าปลูกต้นยูคา
                                      ลิปตัส โดยรับปากว่าหากเอกชนหมดสัญญาสัมปทาน จะท าการจัดสรรคืนพื้นที่ให้
                                      ชาวบ้านท ากิน ขณะที่ราษฎรก าลังด าเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอใช้ที่ดินตามที่เคยสัญญา
                                      และขอเข้าไปท ากินในพื้นที่ป่ากับรัฐบาลในโครงการโฉนดชุมชนและอยู่ระหว่างรอการ

                                      พิจารณาอนุมัตินั้น มีแกนน า 3 คนได้ถูกจับด าเนินคดีฐานบุกรุกป่า และมีการเข้าไป
                                      ผลักดันขับไล่ราษฎร จึงเป็นที่มาของการรวมตัวกันมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับ
                                      ทางจังหวัดบุรีรัมย์

                                                       ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2554  ราษฎรผู้ไม่มีที่ท ากิน หมู่ 1 และหมู่
                                      10 ต าบลล านางรอง อ าเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 กลุ่มที่เข้าไป
                                      บุกรุกท ากินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ าเภอโนนดินแดง กว่า 100 คน ใน
                                      จ านวนนั้นมีแกนน า 3 คนคือ นายรุน สร้อยสด, นายไพฑูรย์ สร้อยสด และนายนวล
                                      เทียนพิมาย ถูกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้ง

                                      ความกับเจ้าหน้าที่ต ารวจให้ด าเนินคดีในข้อหาร่วมกันบุกรุกยึดถือครอบครอง แผ้ว
                                      ถาง ก่อสร้าง หรือกระท าการใดๆ ที่ผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้ง
                                      เรียกร้องให้ทางจังหวัดบุรีรัมย์สั่งการให้หน่วยงานราชการและฝ่ายทหารยุติการเข้าไป

                                      ผลักดันขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ป่าสงวนฯ จนกว่ารัฐบาลจะด าเนินโครงการตาม
                                      นโยบายโฉนดชุมชนเสร็จสิ้น
              คู่ขัดแย้งหลักและจุดยืน   กลุ่มชาวบ้านต าบลล านางรอง จุดยืนคือ เข้าครอบครองประโยชน์และท ากินในพื้นที่
                                      ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ าเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์

                                      กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จุดยืนคือ ให้ออกจากพื้นที่ ห้ามบุรุกป่า
                                      สงวนแห่งชาติดงใหญ่ผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ เพราะเป็นแหล่งต้นน้ าล า
                                      ธารที่ส าคัญของล าน้ าในพื้นที่เกษตรกรรมในจังหวัดบุรีรัมย์

              ผู้เกี่ยวข้องอื่น       1.กลุ่มชาวบ้านต าบลล านางรอง อ าเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
                                      2.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ อ าเภอ/จังหวัด
                                      3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                                      4.ศาลจังหวัดบุรีรัมย์

              ระยะเวลา                มากกว่า 3 ปี (พ.ศ.2554- 2561)
              สถานะ                   ก าลังอยู่ระหว่างการแก้ไข
              พลวัต                   มีการเรียกร้องให้มีการจัดการและย้ายออกจากพื้นที่ทรัพยากรป่าไม้ มีประชาชนที่

                                      ออกจากพื้นที่เร่งด่วนและเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมประกอบกับเป็นเรื่องของสิทธิ
                                      ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐโดยตรง  ดังนั้น  โอกาสที่จะมีแนวร่วมใน
                                      การเรียกร้องสิทธิชุมชนเพิ่มเข้ามาและอาจเกิดความขัดแย้งยืดเยื้อได้
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43