Page 217 - kpi19911
P. 217

217


                                         ได้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2543

                                         กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกอาชญาบัตรพิเศษแก่บริษัทฯ จ านวน 53  แปลง
                                         ครอบคลุมเนื้อที่ 120,000 ไร่ ในอ าเภอเมืองอุดรธานีและอ าเภอประจักษ์ศิลปา
                                         คม จากการส ารวจนั้นพบว่าในจังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งแร่โปแตชที่มีความอุดม
                                         สมบูรณ์สูง บริษัทฯ จึงได้ยื่นค าขอประทานบัตรท าเหมืองแร่โปแตช เมื่อวันที่ 9

                                         มิถุนายน 2547  ได้รับจดทะเบียนค าขอประทานบัตรท าเหมืองแร่ใต้ดินเพื่อผลิต
                                         แร่โปแตชในพื้นที่แหล่งอุดรใต้ จ านวน 22,437 ไร่ ครอบคลุมอ าเภอเมือง
                                         อุดรธานี และอ าเภอประจักษ์ศิลปาคม และเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ได้รับจด
                                         ทะเบียนค าขอประทานบัตรท าเหมืองแร่ใต้ดินเพื่อผลิตโปแตชในแหล่งพื้นที่อุดร

                                         เหนือ จ านวน 52,037  ไร่ ครอบคลุมอ าเภอเมืองอุดรธานี อ าเภอประจักษ์ศิลปา
                                         คม และอ าเภอหนองหาน รวมแล้ว 74,474ไร่ โดยหวังจะเปิดท าเหมืองแร่ใต้ดิน
                                         ในพื้นที่ทั้งหมด
                                                ต่อมาปีพ.ศ. 2550 โครงการนี้ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อราษฎรและ

                                         คุณภาพสิ่งแวดล้อมในวงกว้างมาก พื้นที่การขุดท าเหมืองใต้ดินนั้นซ้อนทับกับ
                                         พื้นที่ที่มีราษฎรอยู่อาศัย ท ากิน ชุมชน  เกือบแปดหมื่นไร่ โดยตั้งแต่ขั้นตอนการ
                                         ด าเนินการส ารวจและยื่นค าขอประทานบัตรของ บริษัทฯ ได้รับการคัดค้านจาก

                                         ประชาชนในท้องที่ ต าบลโนนสูง และต าบลหนองไผ่ อ าเภอเมืองอุดรธานี ต าบล
                                         ห้วยสามพาด และต าบลนาม่วง อ าเภอประจักษ์ศิลปาคม ได้รวมตัวกันตั้งกลุ่ม
                                         อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีขึ้นและแสดงตัวเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการเหมืองแร่
                                         ใต้ดินอย่างจริงจังทุกขั้นตอนจนปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่โครงการเหมืองแร่
                                         โปแตช ต่อมาได้มีข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางถึงโรงการที่อาจก่อให้เกิด

                                         ผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง และในที่สุดได้มีประกาศประเภทโครงการหรือ
                                         กิจการที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงและมีการแจ้งความ
                                         ด าเนินคดีกับกลุ่มแกนน ากลุ่มอนุรักษ์ฯ  5 คน ว่ามีการบุรุกเข้าไปในพื้นที่ของ

                                         ของบริษัทเพื่อท าลายปักมุดที่ท าไว้ ต่อมาศาลได้พิพากษาศาลยกฟ้องแกนน า
                                         กลุ่มอนุรักษ์ฯ ทั้ง 5 ด้วยพิจารณาตามหลักการในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจัก
                                         ไทย พุทธศักราช 2540 ที่ได้ก าหนดสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                                         ที่มีสาระเรื่องความสัมพันธ์ทางอ านาจระหว่างรัฐกับประชาชนในการจัดการ

                                         ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยได้เพิ่มอ านาจให้ประชาชน ชุมชน
                                         ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจน
                                         สามารถตรวจสอบการใช้อ านาจของรัฐในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
                                         สิ่งแวดล้อมโดยพิพากษาศาลดังกล่าวนี้ถือเป็นที่สุดเพราะไม่มีการอุธรณ์จากฝ่าย

                                         ของบริษัทฯ แต่ภายหลังมีการลงด าเนินการรังวัดการปักหมุดเขตเหมืองแร่ต่อไป
                                         การรังวัดครั้งนี้ได้จัดให้มีการระดมกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คนอีกทั้งยังมี
                                         เจ้าหน้าที่ต ารวจ และอาสาสมัครรักษาความปอดภัยพลเรือน(อปพร.) ได้ออกมา
                                         ท าหน้าที่เป็นแนวป้องกันการรังวัดปักหมุดในแต่ละจุด ซึ่งได้จัดให้มีการปักหมุด

                                         กระจายเป็นหลายจุด กลุ่มชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีได้รวม
                                         ก าลังชุมนุมคัดค้านการปักหมุดดังกล่าวเป็นจุดๆ ตามไปด้วยท าให้เกิดการปะทะ
                                         กันเป็นระยะๆ ตามจุดที่ท าการปักหมุดดังกล่าวในเบื้องต้นได้มีรายงานผู้บาดเจ็บ
                                         จากการปะทะดังกล่าวและการปะทะดังกล่าวยังจะด าเนินต่อไปโดยไม่สนใจ

                                         ความขัดแย้งหรือการเข้ามาแสดงการคัดค้านของคนในพื้นที่เลย
   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222