Page 188 - kpi19911
P. 188
188
16.จังหวัดบึงกาฬ
ประเด็นที่ 2 ความขัดแย้งกรณีปัญหาการใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์หนองนาแซงในพื้นที่
จังหวัดบึงกาฬ
พื้นที่ ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ
ประเภทความขัดแย้ง ด้านสังคม(การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ)
ระดับการรับรู้ของสังคม ประเด็นความขัดแย้งอยู่ในระดับชาติเนื่องจากมีการยื่นหนังสือถึงสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติ ปรากฎในสื่อท้องถิ่นและสื่อระดับชาติ ระดับการรับรู้จึงเกิดขึ้นอย่าง
แพร่หลาย
ประเด็นขัดแย้ง ปัญหาเกิดจากที่ดินท ากินของชาวบ้านทับซ้อนกับพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของ
หน่วยงานภาครัฐ มีการใช้อ านาจให้ย้ายออกจากพื้นที่ ประชาชนไม่ได้รับความ
เป็นธรรมจึงร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ความเป็นมา เกิดเหตุชาวบ้านในจังหวัดบึงกาฬเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาการใช้
ที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยตัวแทนชาวบ้าน(นายหนูแกม ชาวทองหลาง ) ตัวแทน
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศที่สาธารณประโยชน์ "หนองนาแซง" ต.ท่า
สะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ หลังเข้าใช้เป็นที่ดินท ากินมานานกว่า 50 ปี
จากการให้ข้อมูลของชาวบ้านปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในปี 2553 ได้มีการ
รังวัดตรวจสอบเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์หนองนาแซงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้
ด าเนินการหาข้อยุติได้ แต่หน่วยงานราชการได้ออกประกาศเกี่ยวกับการบุกรุกที่
สาธารณะฯ อย่างต่อเนื่อง ต่อมา อบต.ท่าสะอาด มีประกาศแจ้งเรื่องให้รื้อถอน
ท าลายทรัพย์สินจากที่สาธารณประโยชน์หนองนาแซง และให้ด าเนินการให้แล้ว
เสร็จภายใน 20 วัน ท าให้ประชาชนที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวได้รับ
ผลกระทบ เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่พิพาทไม่มีที่ดินท ากินเป็นของตนเอง
แต่เข้าไปใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณประโยชน์หนองนาแซงประเภทพลเมืองใช้
ร่วมกัน เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ไม้ยืนต้น และเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ปี 2507 เป็นต้นมา และ
ในปี 2536 อ าเภอเซกา ได้ท าหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง (นลส.) พื้นที่สาธารณะ
ใช้ประโยชน์ร่วมกันที่หนองนาแซง จ านวนพื้นที่ 1,558 ไร่ หลังจากนั้นใน ปี 2549
ตัวแทนชาวบ้าน จึงท าหนังสือร้องเรียนไปยังส านักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้มี
การตรวจสอบกรณีนี้ และมีหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยลงความเห็นที่ ผร. 23/9006
ลงวันที่ 8 ต.ค. 50 ระบุว่า เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะรับฟังเป็นที่
ยุติได้ว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว และไม่ปรากฏว่าที่สาธารณประโยชน์
แปลงดังกล่าวมีการใช้เป็นที่สาธารณประโยชน์ซึ่งราษฎรใช้ร่วมกันเมื่อใด และ
ราษฎรได้ครอบครองท ากินในที่ดินดังกล่าวก่อนที่อ าเภอเซกาจะน าที่ดินมาขึ้น
ทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือไม่ จึงเห็นด้วยกับการที่อ าเภอเซกาได้อนุโลม
ให้ราษฎรท ากินในที่ดินเดิมต่อไปก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบแนวเขตของที่
สาธารณประโยชน์ให้ชัดเจนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน จึงเสนอแนะให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส านักงานที่ดินจังหวัด ส านักงานที่ดินอ าเภอ ร่วม
ตรวจสอบและพิจารณาด าเนินการแก้ปัญหาให้มีความชัดเจน แต่ปัญหาดังกล่าวก็
ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งเกิดผลกระทบต่อครอบครัวและการด าเนินชีวิตของเกษตร
ในพื้นที่ดังกล่าวเรื่อยมา
ต่อมาเมื่อ 1 มิถุน ายน 2561 ท างกลุ่ม ตัวแท น ชาวบ้ าน
(น าโดยนายหนูแกม ชาวทองหลาง ) ผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศที่