Page 23 - kpi19909
P. 23
17
เกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจ (Mistrust) และจะหาทางออกใหม่โดยการ
ร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีในลําดับต่อไป
พลวัต เกิดจากการที่เทศบาลตําบลบ้านแซว ที่อนุญาตให้บริษัทรับซื้อขี้
ยางพาราเข้ามาเปิดในพื้นที่โดยไม่มีการถามความเห็น หรือการทํา
ประชาคมจากประชาชนในพื้นที่ หรือมีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
อย่างเป็นระบบ เมื่อโรงงานรับซื้อขี้ยางเปิดกิจการทําให้ชาวบ้านได้รับ
ผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของโรงงานรับซื้อขี้ยางพารา เมื่อฝนตกทําให้
นํ้าชะล้างลานที่เก็บก้อนยางพาราไหลออกนอกพื้นที่โรงงาน ชาวบ้าน
จํานวนหนึ่งได้รับผลกระทบทางสุขภาพ เกิดอาการหอบ หายใจไม่ออก
บางรายมีอาการแพ้ เป็นผื่นขึ้นต้องไปหาหมอรักษาตัวเป็นประจํา จนใน
ที่สุด ชาวบ้านได้รวมตัวกันประท้วง และทําหนังสือร้องเรียนศูนย์
ยุติธรรมชุมชน ตําบลบ้านแซวเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับบริษัทที่รับซื้อ
ยางพารา โดยบริษัทรับซื้อยางพารารับจะแก้ไขปัญหาภายในเวลา 4
เดือน ตั้งแต่ 21 ก.ค. – 21 พ.ย.59 ซึ่งบริษัทรับจะแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น
จะมีการออกแบบโรงเก็บยางใหม่ไม่ให้กลิ่นออก จะทําความสะอาดร่อง
นํ้าที่ไหลลงสู่ร่องเหมือนของหมู่บ้าน และจะทําที่เก็บนํ้าที่ล้างขี้ยางของ
โรงงาน จนกระทั่งครบกําหนดทางโรงงานก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาต่างๆ
แต่อย่างใด ชาวบ้านได้ไปร้องทุกข์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหน
แก้ไขปัญหาให้ได้ จนครั้งหลังสุด ชาวบ้านได้ไปที่ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด
เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดเชียงราย ก็แนะนําให้
ชาวบ้านไปฟ้องที่ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ แต่ชาวบ้านไม่มี
ค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการเดินทาง จึงได้ใช้วิธีรวมตัวกันถือป้ายประท้วงริม
ถนนดังกล่าว หากว่า ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานทั้ง อําเภอและ
จังหวัด ที่หวังสุดท้ายของชาวบ้าน คือ จะพึ่งบารมี นายกฯ ประยุทธ์ โดย
จะทําหนังสือร้องถึงนายกรัฐมนตรีต่อไป.
ระดับความรุนแรง 2 มีความเสียหายต่อร่างกาย (ผลกระทบทางสุขภาพ)
วิธีการแก้ไข ปัจจุบันชาวบ้าน และองค์กรภาครัฐ (ศูนย์ยุติธรรมชุมชน ตําบลบ้าน
แซว) พยายามใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อทําความเข้าใจร่วมกันทั้งสอง
ฝ่าย ตลอดจนการดําเนินการด้านกฏหมาย แต่ก็ยังไม่ได้ผลนัก ซึ่งกล
ยุทธ์ดังกล่าวจําเป็นต้องมีการกําหนดระบบในการกํากับติดตาม
ข้อตกลงที่เกิดขึ้นในเวทีการเจรจา โดยอาจดําเนินการโดยมีส่วนร่วม