Page 133 - kpi18343
P. 133
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง
ก ร ณี ศึ ก ษ า ใ น ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ
ร่างพระราชบัญญัติฯ ยังกำหนดให้ผู้ที่จะเป็นกรรมการจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้าม คือ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีในวันที่ได้
4
รับการเสนอชื่อ และผู้ที่จะเป็นกรรมการจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
(1) ลักษณะต้องห้ามที่เกี่ยวข้องกับการดำรงตำแหน่งทางการเมือง:
กล่าวคือ จะต้องไม่เป็นสมาชิกรัฐสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น
ผู้บริหารท้องถิ่น และจะต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการพรรคการเมือง สมาชิก
พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะ 3 ปี ก่อนดำรง
ตำแหน่ง
(2) ลักษณะต้องห้ามที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด: ได้แก่ ไม่เคยถูก
ไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน
เนื่องจากทุจริต หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล
ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรายผิดปกติ ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก
แม้จะเป็นการรอลงอาญา เว้นแต่เป็นการกระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ ไม่ได้ถูก
คุมขังอยู่โดยหมายของศาลเนื่องจากต้องคำพิพากษาให้จำคุก และจะต้องไม่อยู่ใน
ระหว่างต้องห้ามมิให้ตำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเคยถูกถอดถอนออกจาก
ตำแหน่ง และไม่อยู่ในระหว่างถูกกล่าวหาหรือถูกดำเนินคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง
และต้องไม่ติดยาเสพติดให้โทษ
(3) ลักษณะต้องห้ามที่เกี่ยวกับความสามารถของบุคคล: คือ จะต้อง
ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ และจะต้องไม่เป็นบุคคล
ล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
4.1.2 กระบวนการสรรหากรรมการ
ร่างพระราชบัญญัติฯ ได้กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา
เพื่อทำหน้าที่สรรหากรรมการอำนวยความยุติธรรมเพื่อสร้างเสริมสังคมสันติสุข โดย
ให้คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการทั้งสิ้น 11 คน ประกอบด้วยประธาน
กรรมการสรรหามาจากการแต่งตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และให้กรรมการ
มาจากการแต่งตั้งของหน่วยงานต่อไปนี้อย่างละ 1 คน ได้แก่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา ศาลปกครอง องค์กรอัยการ ผู้ตรวจการ
4 มาตรา 7
สถาบันพระปกเกล้า
12