Page 126 - kpi18343
P. 126
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง
ก ร ณี ศึ ก ษ า ใ น ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ
2.3 เปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนที่
ทำให้ทราบได้ว่าเป็นผู้ใด เมื่อครบระยะเวลายี่สิบปีนับแต่วันที่จัดทำ
รายงานสรุปข้อเท็จจริงฉบับสมบูรณ์เสร็จ (ระยะเวลาตามมาตรา 26
ของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540)
2.4 จัดให้มีการคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคล พยาน หรือผู้แทน
องค์กรหรือหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนที่ให้ข้อมูลข่าวสาร หรือ
มอบวัตถุพยานไว้ให้กับคณะกรรมการ
3. การอำนวยความยุติธรรมและการอภัยโทษ
3.1 กำหนด “หลักเกณฑ์การพิจารณาคดีอาญาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง”
และ “หลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ” โดยมีกระบวนการ
หารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันของคณะกรรมการฯ นักวิชาการ และ
ผู้แทนจากหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
3.2 แยกประเภทคดีจากมูลเหตุแห่งการกระทำผิด ออกเป็นสามประเภท
คือ 1) ความผิดอาญาโดยเนื้อแท้ 2) ความผิดที่มีแรงจูงใจทาง
การเมือง หรือ 3) ความผิดที่มีแรงจูงใจทางการเมืองแต่มีฐานความผิด
อื่นประกอบ เพื่อประกอบการพิจารณาใช้กระบวนการยุติธรรมใน
รูปแบบปกติที่เหมาะสมกับประเภทความผิดนั้นๆ ซึ่งอาจรวมถึง
การเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าไม่ควรสั่งฟ้องหรืออุทธรณ์
หรือควรถอนฟ้องหรือถอนคำร้องคดีอาญาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
ตามนิยามที่กำหนดในข้อ 3.3.1 ทั้งนี้ ในกรณีเป็นความผิดที่เจ้าหน้าที่
รัฐกระทำต่อประชาชน ให้ใช้กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน
และกรณีเป็นความผิดระหว่างประชาชนต่อประชาชน ให้ใช้
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
3.3 โดยทั่วไป ให้ใช้กระบวนการยุติธรรมโดยปกติก่อน แต่หากจำเป็น
อาจเสนอให้มีกฎหมายพิเศษโดยคำนึงถึงข้อ 3.3.1 และ 3.3.2 แต่จะ
ไม่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตประพฤติมิชอบ
3.4 ในส่วนของการอภัยโทษ ให้ผู้ต้องคำพิพากษาที่คดีถึงที่สุด มีสิทธิ
ยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษผ่าน
สถาบันพระปกเกล้า
117