Page 491 - kpi17721
P. 491
1. คณะสิงโตซึ่งแต่ละทีมมีผู้เข้าแข่งขันได้ 10 คน ประกอบด้วยผู้ฝึกสอน 1 คน หัวหน้าทีม
1 คน และผู้เข้าแข่งขันอีก 8 คน โดยไม่รวมเซฟการ์ดที่จะต้องมีได้ไม่เกิน 4 คน
2. เสาดอกเหมยซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของการแข่งขันนั้น มูลนิธิเทพปูชนียสถานรับหน้าที่
ท้องถิ่นใจดี ในการจัดหามาตามที่ประชุมมอบหมาย โดยกำหนดลักษณะต่างๆ ไว้ดังนี้ ความสูงของเสาไม่เกิน
3 เมตร ความยาวของสนามแข่งประมาณ 8-10 เมตร และเวลาที่ใช้สำหรับการแข่งขันระหว่าง 10-12
นาที โดยหากคณะเชิดสิงโตใดใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนดจะถูกหักคะแนนตามการพิจารณาของ
คณะกรรมการ
3. การแสดงของคณะเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมยจะต้องประกอบด้วยท่าทางต่างๆ เช่น ท่าดีใจ
ท่าโมโห ท่าตกใจ ท่าสนุกสนาน ท่าเมา ท่านอน ท่าลุกขึ้นตื่น ท่าสงสัย และท่านั่ง
4. เมื่อคณะกรรมการให้คะแนนจากการแสดงของคณะสิงโตสิ้นสุดลงแล้ว จะมีกรรมการ
กลางจำนวน 5 คนเป็นผู้รับผิดชอบในการจับเวลา การรวมคะแนน และการประกาศคะแนน
นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ในการให้คะแนนการแสดงของคณะเชิดสิงโตอีกจำนวน
การจัดการความขัดแย้งและการส่งเสริมสังคมสันติสุข
7 คน โดยมีทั้งที่เป็นคนไทยและมาเลเซีย โดยเมื่อมีการรวมคะแนนจากกรรมการแต่ละคนแล้ว
จะทำการตัดคะแนนกรรมการที่ให้คะแนนสูงสุดและต่ำสุดออก
นอกจากนี้แล้ว การแข่งขันการประกวดเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมยใช้เวลาในการแข่งขัน
ประมาณ 2 วัน โดยในวันแรกจะเป็นรอบคัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบเพื่อไปชิงชนะเลิศในวันต่อมา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ผลการแข่งขันการเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมยเมื่อปี พ.ศ.2556 คณะเชิดสิงโต
ที่ชนะเลิศคือ คณะสิงโตลูกหลวงพ่อโอภาสี จากกรุงเทพมหานคร ได้รับรางวัลถ้วยเกียรติยศจาก
นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คณะเยิ่นจ้าวหาง จากประเทศมาเลเซีย ได้รับ
ถ้วยเกียรติยศจาก พตอ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศอ.บต.) และเงินรางวัล 30,000 บาท ลำดับต่อมาคือ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ คณะหย่งผิง
MCA ทีม B จากประเทศมาลเซีย ได้รับถ้วยเกียรติยศจากผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมเงิน
รางวัล 20,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ คณะศิษย์หลวงปู่เม่ง จากกรุงเทพ-
มหานคร โดยได้รับถ้วยเกียรติยศจากนายเทศมนตรีเมืองปัตตานี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
8 สถาบันพระปกเกล้า