Page 166 - kpi15860
P. 166
16 165
ดังนั้น เทศบาลตำบลเวียงสาจึงมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์อาคารหลังนี้ให้เป็นทั้งสถานที่ปฏิบัติ ผลสำเร็จจากการดำเนินงานผ่านโครงการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการดึงวัฒนธรรม
ราชการและพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาภาพพระราชกรณียกิจ วัตถุสิ่งของ เครื่องใช้แบบโบราณ เพื่อให้ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพื้นที่มาเป็นหลักในการบริหารงานเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนในเขตอำเภอเวียงสา และความโปร่งใส โดยเทศบาลตำบลเวียงสาได้ดึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม
ประกอบด้วย วัฒนธรรมอำเภอเวียงสา องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในอำเภอเวียงสา กำนัน ในการจัดตั้งและบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ซึ่งทำให้ประชาชนทั้งอำเภอเวียงสาได้ตระหนักถึงคุณค่า
ผู้ใหญ่บ้าน สภาวัฒนธรรมอำเภอเวียงสา กลุ่มฮักเมืองเวียงสามาประชุมหารือ และต่างมีความเห็น มรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ท้องถิ่น และเห็นพ้องต้องกันว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มิได้เป็นเพียง
พ้องกันว่า ควรจัดให้มีนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นอนุสรณ์สถาน แค่พิพิธภัณฑ์ของเทศบาลตำบลเวียงสา แต่นับเป็น “พิพิธภัณฑ์ของคนอำเภอเวียงสา” ซึ่งเป็น
อาคารประวัติศาสตร์ศิลปะล้านนาอันทรงคุณค่า โดยมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ สถานที่ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอำเภอเวียงสาเป็นอย่างมาก อันจะเห็น
1. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน องค์กรทุกภาคส่วนในการขอรับบริจาคสิ่งของ ได้จาก ประชาชน นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนสื่อต่างๆ
ได้มาเยี่ยมชม ศึกษาดูงานและถ่ายทำรายการในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเวียงสาอย่าง
2. แต่งตั้งคณะกรรมการออกเป็น 5 ฝ่าย ประกอบด้วย 1) ฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ 2) ฝ่าย ต่อเนื่อง นอกจากนี้เทศบาลตำบลเวียงสายังได้จัดงาน “อนุสรณ์รอยพระบาทแรกแห่งแผ่นดินน่าน”
จัดหาวัตถุ สิ่งของ เครื่องใช้ 3) ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 4) ฝ่ายทะเบียนข้อมูลวัตถุ สิ่งของ ในทุก 3 – 5 ธันวาคม ของทุกปี แต่เนื่องจากภาคประชาชนได้ให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วม
และ 5) ฝ่ายเก็บรักษาสิ่งของ ในการจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เทศบาลจึงขยายงานดังกล่างวเพิ่มเป็น 5 วัน คือระหว่างวันที่
3. จัดอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลที่มีหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์ โดยวิทยากรจาก 1 – 5 ธันวาคม ของทุกปี
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ในเรื่อง การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ เช่น การจัดทำ โครงการศูนย์เด็กเล็กปลอดภัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเวียงสา
ทะเบียนโบราณวัตถุ การแบ่งแยกโซนพื้นที่โดยมีการแบ่งหมวดหมู่ แยกประเภท
สิ่งของให้เหมาะสมเพื่อประโยชน์แก่ผู้เยี่ยมชม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเวียงสา เดิมชื่อศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ของกรม
4. จัดหาวัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ของโบราณ เพื่อนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นโดยมี การศาสนา โดยตั้งอยู่ในวัดบุญยืน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2546 เทศบาลตำบลเวียงสาได้รับการ
การประชาสัมพันธ์เสียงตามสายเทศบาล สถานีวิทยุชุมชน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจาก ถ่ายโอนอำนาจในการบริหารจัดการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ จากนั้น ได้มีการสร้างอาคารศูนย์ฯ
ประชาชนในการบริจาคสิ่งของเข้าร่วมแสดงในพิพิธภัณฑ์ แห่งใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเวียงสา” ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน
จำนวน 128 คน มีครูผู้ดูแลเด็ก 6 คน
5. จัดแบ่งโซนพื้นที่ โดยมีการแยกหมวดหมู่ ประเภทสิ่งของ และมีการจัดทำทะเบียน
โบราณวัตถุ ใบงานความรู้เพื่อบ่งบอกลักษณะสิ่งของให้มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย เทศบาลตำบลเวียงสา มีการบริหารงานศูนย์ฯ โดยการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ปกครอง
และมีการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มอบสิ่งของให้เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบค้น และคณะผู้บริหารคณะกรรมการสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีเป้าหมายร่วมกันว่า
“ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูเด็กเล็กเป็นแห่งที่สองรองมาจาก พ่อ-แม่
6. ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันทรัพย์สินที่ประชาชนนำมามอบให้จัดแสดงมิให้ และญาติ” ดังนั้น จึงมีการพัฒนาการบริหารงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ศูนย์ฯ ได้รับมาตรฐานและมี
สูญหาย คุณภาพมากขึ้น โดยพัฒนาทั้งคนและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป ซึ่งศูนย์ฯ ได้รับการประเมินว่าเป็น
7. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินผลเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทุกระยะ ศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่ตามเกณฑ์การประเมินจากคณะกรรมการระดับอำเภอและจังหวัดอยู่ในเกณฑ์
อย่างต่อเนื่อง กรณีเกิดการชำรุดเสียหายให้มีการแก้ไขซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม ระดับดีมาก ในปี 2551-2553 จาก กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้รับรางวัลประกวดปราชญ์
โดยแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนชุมชน ปราชญ์ชุมชน ฯลฯ ชุมชนปลอดภัยจราจรดีเด่นปี 2557 โครงการเอทรานส์สานสัมพันธ์เพื่อชุมชนปลอดภัยจราจร จาก
สมาคมวิทยาการขนส่งแห่งเอเชีย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 และอีกหลายรางวัล
รางวัลพระปกเกล้า’ 57 รางวัลพระปกเกล้า’ 57